Home » กู้บ้าน ยังไงให้ผ่าน 100% เคล็ดลับการขอสินเชื่อบ้านกับธนาคารที่ควรต้องรู้ ! | คํานวณสินเชื่อบ้าน กสิกร

กู้บ้าน ยังไงให้ผ่าน 100% เคล็ดลับการขอสินเชื่อบ้านกับธนาคารที่ควรต้องรู้ ! | คํานวณสินเชื่อบ้าน กสิกร

กู้บ้าน ยังไงให้ผ่าน 100% เคล็ดลับการขอสินเชื่อบ้านกับธนาคารที่ควรต้องรู้ !


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

เตรียมความพร้อมก่อนกู้บ้าน เตรียมความพร้อมยังไงให้กู้บ้านผ่านแบบ 100%

โดยส่วนมากแล้วเวลาที่เราจะซื้อบ้านนะครับเราก็จะกู้สินเชื่อของธนาคารถูกต้องไหมครับเพราะโดยน้อยกว่าจริงๆนะที่จะมีเงินสดเพียงพอที่จะไปซื้อบ้านด้วยเงินของตัวเองดังนั้นแล้วเนี่ย ธนาคารเนี่ยเขาก็จะมีหลักการคิดหลักการพิจารณาอะไรบางอย่างครับเพื่อที่จะพิจารณาว่าเขาจะปล่อยเงินให้เราพูดหรือเปล่า ซึ่งหลายคนเนี่ยก็คงเคยได้ยินเรื่องราวกันบ้างนะครับว่าบ้านธนาคารปล่อยยากบางธนาคารเงื่อนไขเยอะหรือแม้กระทั่งว่าบางธนาคารไม่รับเลยก็มี ดังนั้นวันนี้เราจะมาคุยกันว่าก่อนที่คุณจะไปยื่นขอสินเชื่อนะเนี่ยคุณควรจะวางแผนยังไงคุณจะเตรียมตัวยังไงให้พร้อมในการขอสินเชื่อเวลาไปขอแล้วเนี่ยมันจะได้มีโอกาสผ่านมากยิ่งขึ้นครับ
ก่อนที่เราจะไปคุยกันต่อในหัวข้อถัดไปนะครับสำหรับใครที่พึ่งมาฟังคลิปนี้นะฮะและเป็นคนที่กำลังวางแผนซื้อบ้านหลังแรก ยังงงๆอยู่ว่าไม่รู้จะปรึกษาใครไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดีผมขอแนะนำนะครับว่าผมเนี่ยได้ทำคลิปวีดีโอในซีรีย์ How to ซื้อบ้านหลังแรก ไว้ในช่อง YouTube Channel นี้ สามารถกด
https://youtu.be/Y7mZrneMMcs
1.เช็ครายได้ ตรวจสอบความสามารถในการผ่อนชำระ
ที่นี้มาเริ่มกันเลยครับก่อนอื่นที่เราจะไปกู้สินเชื่อบ้านหรือเราจะไปซื้อบ้านสักหลังนึงเนี่ยสิ่งแรกที่เราควรจะประเมินเลยนะครับคือความสามารถในการผ่อนชำระบ้านหลังนั้นของเราเนี่ยมีเท่าไหร่ครับ ซึ่งเป็นภาษาบ้านก็คือรายได้ประมาณนี้จะสามารถซื้อบ้านซื้อคอนโดได้ประมาณกี่ล้านบาท ซึ่งตรงนี้ผมเคยได้ทำคลิปอธิบายไปแล้วนะครับว่าธนาคารเขามีเกณฑ์คิดหลักการพิจารณายังไงว่าคนที่มีรายได้เท่านี้มีหนี้สินเท่านี้เนี่ยจะสามารถกู้ซื้อบ้านกู้ซื้อคอนโดได้เท่าไหร่ แต่ผมให้หลักเกณฑ์ง่ายไปอย่างนี้เลยละกันนะครับว่า ธนาคารนะครับเขาจะยอมให้เรามีหนี้ได้ไม่เกิน 40 เปอร์เซ็นต์ของรายได้รวมของเราครับยกตัวอย่างว่าถ้าเรามีรายได้ 100 บาท เราจะมีหนี้ได้ไม่เกิน 40 บาทครับอันนี้เป็นเกณฑ์มาตรฐานขั้นต้นเลยนะ ซึ่งตรงนี้ใครอยากดูคลิปแบบเต็มนะครับสามารถกดด้านล่างเพื่อเข้าไปดูคลิปได้เลยนะ
เงินเดือนเท่านี้ กู้ซื้อบ้านได้กี่ล้านบาท ? | ธนาคารเขาคิดยังไง | ค่า DSR คืออะไร ?
https://youtu.be/zy8fPMlQxlU

2. เช็คภาระหนี้สิน ตรวจสอบเครดิตทางการเงิน
ทีนี้พอเราประเมินแล้วใช่ไหมครับว่ารายได้เราเท่านี้เราจะกู้ซื้อบ้านซื้อคอนโดได้ประมาณเท่านี้บาทสิ่งที่ 2 ที่เราควรจะเตรียมตัวครับคือเตรียม เครดิตทางการเงินของเราไว้ให้ดี ซึ้งในคำว่าเตรียมความพร้อมเรื่องเครดิตทางการเงินก็คือไม่ไปสร้างหนี้อื่นๆไว้ครับไม่ว่าจะเป็นหนี้รถยนต์ หนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล ทั้งหมดเหล่านี้ครับล้วน เป็นหนี้ในระบบที่เขาจะเอามาคิดรวมกันเป็นภาระหนี้ของเราทั้งนั้นดังนั้นกลับไปข้อแรกที่ผมได้บอกไปครับว่าถ้าสัดส่วนภาระหนี้กับรายได้ของเราเนี่ยเกิน 40% มีโอกาสสูงมากครับที่ธนาคารเขาจะไม่อนุมัติเงินกู้ให้กับเราครับดังนั้นสำหรับคนที่กำลังวางแผนจะกู้ซื้อบ้านสิ่งที่ควรทำคือคุณควรจะเคลียร์หนี้เก่าๆที่คุณมีไว้นะครับลองประเมินดูว่า อะไรตัดได้อะไรปิดได้ให้ปิดให้ตัดออกไปก่อนนะครับ
รวมถึงอีกสิ่งที่ควรทำนะครับคือไปเช็คเครดิตบูโรไว้เบื้องต้นก่อนเลยก็ได้นะครับว่าเรามีเครดิตบูโรติดอะไรอยู่หรือเปล่าประวัติทางการเงินอะไรเสียหรือเปล่านะครับ
แต่ไฮไลท์สำคัญนะครับ ที่อยากจะบอกทุกคนเอาไว้ก็คือถ้าใครที่กำลังวางแผนจะซื้อบ้านคุณควรบริหารจัดการหนี้สินของคุณให้ดีนะครับภาระหนี้สินตัวก่อนที่เคยมีคนจะปิดทิ้งหรือควรจะให้มันอยู่ในสัดส่วนที่สามารถจัดการได้นะครับก่อนที่จะไปวางแผนกู้ซื้อบ้านหลังใหม่หรือบ้านหลังแรกก็ตามนะครับ

3.เตรียมความพร้อมเรื่องเอกสาร
การยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารครับเราก็จะต้องไปยื่นเอกสารต่างๆให้กับทางธนาคารโดยประเภทของเอกสารครับท่านแบ่งออกมาเป็นหลักๆแล้วจะแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ
4. รักษาวินัยทางการเงิน
จริงๆแล้วข้อ 4 เนี่ยครับเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเลยนะครับสำหรับคนที่กำลังวางแผนจะกู้ซื้อบ้านการรักษาวินัยทางการเงินเนี่ยเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะทำให้เรากู้ซื้อบ้านแล้วผ่านแบบสบายๆ รวมไปถึงว่าถึงผ่านแล้วเราก็จะสามารถผ่อนได้แบบไม่ต้องกังวลและไม่มีปัญหาอะไรด้วยครับ ซึ่งมีคำคำหนึ่งเพื่อนๆเคยได้ยินกันไหมครับว่าธนาคารไม่เคยขอดูเกรดเฉลี่ยของคุณนะครับสิ่งเดียวที่ธนาคารอยากรู้ว่าเขาจะมั่นใจว่าเขาจะปล่อยเงินกู้ให้คุณได้หรือไม่นั่นก็คือเขาอยากดูสมุดพกทางการเงินของคุณครับซึ่งสมุดพกทางการเงินของเราเนี่ยมันก็คือตัวเครดิตของเรานี่แหละครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาระหนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินสดที่เราฝากไว้กับธนาคารหรือทรัพย์สินที่เรามีอยู่นี่ล่ะครับเป็นปัจจัยที่ธนาคารเขาอยากรู้ว่าเรามีวินัยทางการเงินดีแค่ไหน ซึ่งแน่นอนว่าคนที่มีวินัยทางการเงินดีมีเงินเก็บอยู่ตลอดเนี่ยมีโอกาสที่จะกู้สินเชื่อผ่านมากกว่าคนที่ไม่มีวินัยทางการเงินอยู่แล้ว

กู้บ้าน สินเชื่อบ้าน เตรียมกู้บ้าน กู้ซื้อบ้าน บ้าน

กู้บ้าน ยังไงให้ผ่าน 100% เคล็ดลับการขอสินเชื่อบ้านกับธนาคารที่ควรต้องรู้ !

เทคนิคผ่อนบ้าน ให้หนี้หมดเร็วขึ้น 10 ปี ประหยัดดอกเบี้ยเป็นล้าน!!


เทคนิคผ่อนบ้าน ให้หนี้หมดเร็วขึ้น 10 ปี ประหยัดดอกเบี้ยเป็นล้าน!!
หนี้บ้านสำหรับหลายๆคนแล้วถือว่าเป็นหนี้ก้อนที่ใหญ่ที่สุดและระยะเวลาการผ่อนชำระยาวนานที่สุดเลยก็ว่าได้นะครับ เพราะระยะเวลาที่ธนาคารเขาให้เราผ่อนบ้านเนี่ยเริ่มตั้งแต่ 20 ไปจนถึง 40 ปีเลยก็มีครับ ซึ่งเอาเข้าจิงๆถ้าเราผ่อนไปเรื่อยๆตามที่ธนาคารเขาบอกนี่คือทำงานจนเกษียนเลยนะครับกว่าหนี้ของเราจะหมด
แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือไม่ใช่แค่เรื่องระยะที่นานหรอกนะครับ การผ่อนบ้านให้จำไว้เลยนะครับว่ายิ่งเราผ่อนนานเท่าไร เรายิ่งเสียดอกเบี้ยมากขึ้นเท่านั้น เพราะอะไรหรอครับเพราะว่าการคิดดอกเบี้ยบ้านเนี่ยเขาจะคิดแบบ ลดต้นลดดอกครับ อธิบายง่ายๆว่าดอกเบี้ยจะคิดตามเงินต้นครับ ผมได้ทำคลิปอธิบายเรื่องนี้ไว้อย่างระเอียดแล้วลองเข้าไปดูคลิปในช่องได้นะครับ

ดังนั้นไอการที่เราผ่อนบ้านเป็นเวลา 30 40 ปีเนี่ยนอกจากมันจะเป็นภาระระยะยาวมากๆแล้วเรายังต้องจ่ายดอกเบี้ยอีกเยอะมากๆด้วยครับเดี๋ยวจะหาว่าผมเว่อร์จนเกินไป ผมจะคำนวนออกมาให้ดูกันเลยดีกว่าครับ
สมมุติว่าผมซื้อคอนโดราคา 3 ล้านบาท ผมผ่อน 30 ปี โดยผมกำหนดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยทั้งสัญญาอยู่ที่ 7% เหมือนที่ผมบอกทุกครั้งนะครับว่าที่ผมใช้ 7% เพราะเอาเอาเฉลี่ยทั้งสัญญาและปัดขึ้นนิดนึงเป็นค่าเผื่อเหลือความปลอดภัยเวลาคำนวน ดังนั้นถ้าเราเอาข้อมูลเหล่านี้เข้าไปคิดคำนวนในโปรกแกรม EZ Financial Calculator เราจะได้ออกมาว่า
เราจะต้องผ่อนธนาคารเดือนละ 19,959 บาท/เดือน
ถ้าผ่อนครบ 30 ปี เราจะต้องจ่ายค่างวดทั้งหมด = 7,184,265 บาท
ทุกคนไม่ได้ฟังผิดไปหรอกนะครับ กู้มาสามล้าน จ่ายจริง 7 ล้าน
นั่นหมายความว่าดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญานี่คือ 4 ล้านกว่าบาทเลยครับ
วิธีแรกครับคือการโปะหรือการผ่อนชำระเพิ่มจากที่ผ่อนอยู่
จริงๆวิธีนี้มีหลายท่านทำกันแล้วแต่ยังมีอีกหลายๆคนที่ยังไม่รู้นะครับว่าสามารถโปะเพิ่มได้ ฉันอยากให้ทำความเข้าใจกันก่อนครับว่าเงินที่เราผ่อนเพิ่มเข้าไปเนี่ยมันจะไปตัดแต่ในส่วนเงินต้นทั้งนั้นเลยครับยกตัวอย่าง
เช่นปกติแล้วผ่อนชำระค่าบ้านอยู่เดือนละ 10,000 บาทถ้าเราผ่อนเพิ่มเข้าไปอีกสักเดือนละ 1,000 บาท 1000 ที่เราใส่เพิ่มเข้าไปนี่แหละครับมันจะไปตัดเป็นส่วนของเงินต้นทั้งนั้นเลยดังนั้นการผ่อนเพิ่มต่อเดือนจึงช่วยให้นี่เราหมดเร็วขึ้นอย่างมากนะครับที่สำคัญจะช่วยประหยัดดอกเบี้ยด้วยเพราะเมื่อเงินต้นโดนตัดออกดอกเบี้ยที่เราจะต้องจ่ายก็ลดเป็นสัดส่วนตามไปด้วยครับ

วิธีแรกเห็นว่าหมดเร็วแล้วใช่ไหมครับมาแต่มันยังมีอีกวิธีที่ควรทำร่วมกัด้วยระหว่างที่เราโปะครับนั่นคือการรีไฟแนนซ์ทุกๆ 3 ปีครับ
รีไฟแนนซ์คือการขอสินเชื่อก้อนใหม่จากธนาคารครับ อาจจะเป็นธนาคารเดิมที่เรากู้อยู่หรือไปยื่นขอธนาคารใหม่ก็ได้ครับ นั่นหมายความว่าเราจะเปลี่ยนหนี้เดิมทั้งก้อน กลายมาเป็นหนี้ก้อนใหม่เลยครับ พูดง่ายๆว่าขอกู้ใหม่อีกรอบ แต่ที่พิเศษกว่านั้นก็คือ การรีไฟแนนซ์เราสามารถกำหนดแผนการในการผ่อนชำระได้หลากหลายมากขึ้นด้วยครับยกตัวอย่างเช่น

กรณีที่1 เราอยากผ่อนบ้านให้หมดเร็วขึ้น
เราอาจเลือกระยะเวลาผ่อนชำระให้สั้นลง ส่งเงินต่องวดให้มากขึ้น
จากของเดิมเราผ่อน ยอดสินเชื่อคงเหลือ 3,000,000 บาท ระยะเวลา 30 ปี ผ่อนต่อเดือน 19,000 ถ้าเราอยากผ่อนให้หมดเร็วขึ้นเราอาจเลือกการ Refinace เป็น
ยอดสินเชื่อ 3,000,000 บาท ระยะเวลา 20 ปี ผ่อนต่อเดือน 15,000 บาทต่อเดือน

กรณีที่ 2 เราอยากให้ยอดผ่อนชำระต่อเดือนลดลง
จากยอดหนี้เดิมที่เราผ่อนธนาคารมาแล้ว 3 ปี ผมสมมุติว่า ถ้ายอดสินเชื่อเดิมเราคือ 3 ล้าน เราผ่อนมา 3 ปี เงินต้นอาจจะคงเหลือประมาณ 2.8 ล้านบาท และยอดเดิมเราผ่อนธนาคารอยู่ที่เดือนละ 19,000 บาท

ดังนั้นถ้าสรุปคร่าวๆจากทั้ง 2 วิธีที่ผมได้ยกมาให้ดูดีนะครับว่าในแต่ละเดือนที่เราผ่อนธนาคารเราควรจะผ่อนเพิ่มจากที่เราผ่อนอยู่ทุกเดือนครับเพราะมันจะช่วยตัดเงินต้นไปได้เยอะเมื่อเทียบกับเงินต้นไปได้เยอะนี่ก็จะหมดเร็วขึ้นดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายมันก็ลดลงด้วยเพราะเราผ่อนชำระครบ 3 ปีเราก็วางแผนที่จะ รีไฟแนนซ์ เพื่อปรับโครงสร้างหนี้เหลือลดอัตราดอกเบี้ยอะไรก็ว่ากันไปนะครับซึ่งผมเชื่อว่าการทำแบบนี้จะช่วยประหยัดดอกเบี้ยให้เราได้เป็นเงินมหาศาลนะครับและทำให้นี่ของเราหมดเร็วขึ้นด้วยนะครับ

ดังนั้นสรถุปกันอีกทีนะครับ ถ้าเพื่อนๆฟังมาถึงตรงจุดนี้และกำลังผ่อนบ้านกันอยู่หรือกำลังวางแผนจะซื้อบ้าน สิ่งที่ผมอยากให้ทุกๆคนทำคือ วางแผนโปะเพิ่มต่อเดือนครับ จะมากจะน้อยไม่ว่ากันแต่อยากให้โปะนะครับ และช่วงไหนมีเงินพิเศษมีโบนัสอะไรก็แบ่งบางส่วนมาโปะได้ยิ่งดีครับ และเมื่อครบสามปีทุกๆสามปีก็ให้วางแผนที่จะรีไฟแนนซ์หรือรีเทนชั่นเพื่อปรับอัตราดอกเบี้ยลงมาให้มันถูกลงอีกนะครับ หมั่นทำแบบนี้ผมรับประกันเลยนะครับเผลอบางคนถ้าวินัยดีๆ สามารถโปะได้เยอะๆเนี่ย 10 ปีหนี้บ้านหมดก็มีเยอะแยะไปครับ เราจะได้เก็บเงินไว้สำหรับต่อยอดอนาคตหรือไว้ซื้อความสุขอะไรก็ว่ากันไปนะครับ

ผ่อนบ้าน เทคนิคผ่อนบ้าน ซื้อบ้าน ดอกเบี้ยบ้าน

เทคนิคผ่อนบ้าน ให้หนี้หมดเร็วขึ้น 10 ปี ประหยัดดอกเบี้ยเป็นล้าน!!

กู้ซื้อบ้าน EP.3 | รายได้เท่านี้ขอสินเชื่อบ้านได้เท่าไหร่ สอนคำนวณวงเงินสินเชื่อบ้าน | THE ASSET HUB


การมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองคงเป็นหนึ่งในเป้าหมายของคนทุกคน แต่การจะมีบ้านสักหลักถ้าจะต้องเก็บเงินรอซื้อเงินสดค่อยซื้อคงจะต้องรอมีบ้านตอนแก่ การกู้เงินธนาคาร ขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจึงเป็นทางออกเดียวที่เราทุกคนมีเหมือนกัน
แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า รายได้ของเราที่กำลังทำงานประจำอยู่เท่านี้ ฉันจะซื้อบ้านได้สักหลังละเท่าไหร่? หรือ นายหน้าที่กำลังจะพาลูกค้าไปดูบ้าน จะรู้ได้อย่างไรว่า ลูกค้าจะมีศักยภาพเพียงพอที่จะซื้อ?
บทความนี้ผมจะมาสอนอย่างละเอียดเกี่ยวกับการประเมินศักยภาพการขอสินเชื่อบ้านครับ
สำหรับเพื่อนที่เข้ามาดูแล้ว เห็นว่าเป็นโยชน์ฝากติดตามเราได้ที่ช่อง The Asset Hub หรือเข้าไปกดได้ที่ลิ้งค์
link : https://www.youtube.com/channel/UCdanz150cHDMYsPgXJHsFEA
ช่องทางการติดตาม
Facebook : https://www.facebook.com/theassethub/
Website : https://www.theassethub.net/

กู้ซื้อบ้าน EP.3 | รายได้เท่านี้ขอสินเชื่อบ้านได้เท่าไหร่ สอนคำนวณวงเงินสินเชื่อบ้าน | THE ASSET HUB

ขั้นตอนการขอสินเชื่อบ้าน เข้าใจได้ภายใน 4นาที


ขั้นตอนการขอสินเชื่อบ้าน เข้าใจได้ภายใน 4นาที

สินเชื่อบ้าน แลกเงิน , ธนาคาร กสิกรไทย กู้ง่าย วงเงินเยอะ ดอกเบี้ยต่ำ ต้องการเงินก้อน บ้านช่วยได้


สินเชื่อบ้าน แลกเงิน
วงเงินกู้ไม่เกิน 90% ของราคาประเมินหลักประกัน ยกเว้นกรณีเจ้าของกรรมสิทธิ์หลักประกันไม่ได้ขอกู้ร่วมได้วงเงินกู้ไม่เกิน 70% ของราคาประเมินหลักประกัน
วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 20 ล้านบาท
วงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท
วงเงินกู้ร่วมกับวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี รวมสูงสุดไม่เกิน 20 ล้านบาท โดยวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท
เงื่อนไข
บ้านพร้อมที่ดิน ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ ห้องชุดและที่ดินเปล่า โดยหลักประกันจะต้องเป็นการใช้เพื่อที่อยู่อาศัยเท่านั้น มิใช่เพื่อการให้เช่า หรือการพาณิชย์
หลักประกันที่อยู่อาศัยและที่ดินเปล่าต้องมีราคารประเมินต่อหน่วยไม่ต่ำกว่า 0.3 ล้านบาท กรณีห้องชุดต้องมีราคาประเมินต่อหน่วยไม่ต่ำกว่า 0.5 ล้านบาท
หลักประกันที่ดินเปล่าให้กู้เฉพาะผู้มีรายได้ประจำและเป็นประเภทเงินกู้เท่านั้น และกำหนดให้ส่วนของที่ดินมีเนื้อที่สูงสุดไม่เกิน 10 ไร่
หลักประกันจะต้องปลอดภาระ ไม่ติดจำนอง หรือภาระผูกพันอื่นๆ กับสถาบันการเงินใดๆ ยกเว้นกรณีขอไถ่ถอนจากสถาบันการเงินอื่นที่เป็นสินเชื่อประเภทเดียวกัน
หลักประกันต้องเหมาะแก่การอยู่อาศัย ไม่อยู่ในสภาพเสื่อมโทรม ต้องอยู่ในสภาพดีและมีการบำรุงรักษาที่ดี
ท่านใดต้องการปรึกษาเรื่องการกู้ สินเชื่อบ้าน ผมเปิดช่องทางติดต่อโดยตรง ตาม ID line ด้านล่างนะครับ
Line ID : asa4289

สินเชื่อบ้าน แลกเงิน , ธนาคาร กสิกรไทย กู้ง่าย วงเงินเยอะ ดอกเบี้ยต่ำ ต้องการเงินก้อน บ้านช่วยได้

นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆTips

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *