NỘI DUNG BÀI VIẾT
8 เหตุผลที่ทำให้ กู้บ้านไม่ผ่าน คืออะไร อยากกู้บ้านผ่านอย่าทำแบบนี้ ?
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม
8 เหตุผลที่ทำให้ กู้บ้านไม่ผ่าน คืออะไร อยากกู้บ้านผ่านอย่าทำแบบนี้ ?
สวัสดีครับผมวิน Guru Living นะครับวันนี้ครับเราจะมาคุยกันถึงหัวข้อที่สำคัญมากๆนะครับสำหรับคนที่กำลังวางแผนจะซื้อบ้านนะครับวันนี้เราจะมาคุยกันว่าเหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้เราชื่อบ้านไม่ผ่านนะครับ ถ้าเราทำแบบนี้ธนาคารมีโอกาสว่าจะไม่ปล่อยสินเชื่อให้เราสุขมากๆนะครับมีอะไรบ้างเดี๋ยวจะมาคุยกันครับ
1.รายได้ไม่ถึงเกณฑ์
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆเลยนะครับที่เป็นปัจจัยทำให้เรากู้บ้านผ่านกู้บ้านไม่ผ่านเพราะหลักเกณฑ์แรกที่ทางธนาคารเขาจะมากำหนดว่าเขาจะปล่อยสินเชื่อให้เราหรือไม่และปล่อยให้เรามากน้อยแค่ไหนนั่นก็คือ รายได้ ของเรานั่นเองครับ เพราะอะไรครับรายได้เป็นตัวที่จะกำหนดว่าเราสามารถผ่อนธนาคารได้เดือนละกี่บาทดังนั้นถ้ารายได้เราไม่ถึงเกณฑ์มีสิทธิ์มากๆเลยครับที่ธนาคารเขาจะไม่ปล่อยสินเชื่อให้กับเราครับ
2.รายได้ที่ธนาคารไม่พิจารณา
เพื่อนๆหลายคนอาจเคยได้ยินมาใช่ไหมครับว่าเวลาเรายื่นขอสินเชื่อบ้านเนี่ยเราสามารถนำรายได้บางตัวเข้าไปรวมให้กลายเป็นรายได้ด้วยเช่นรายได้จากธุรกิจเสริมรายได้จากการทำงาน Part Time หรือรายได้จาก OT ทำงานนอกเวลา อะไรก็แล้วแต่ แต่ผมต้องบอกอย่างนี้นะครับว่ารายได้ที่ธนาคารจะมาประเมินเป็นรายได้จริงๆของเราเนี่ยส่วนมากนะครับก็จะเป็นรายได้ที่มีความมั่นคงสูงเช่นรายได้จากงานประจำของเราจริงๆนะครับพี่ออกมาจากสลิปเงินเดือนเนี่ยเรามีรายได้เท่าไหร่ในส่วนของโอทีในส่วนของโบนัสหรืออื่นๆเนี่ยมันต้องแล้วแตกแต่ละธนาคารพิจารณานะครับบางธนาคารเอารายได้ในส่วนนี้มาคิดก็มีบางธนาคารไม่คิดรายได้ส่วนนี้เลยที่เป็น OT ที่เป็นโบนัสก็มี
3.ประเภทของรายได้
ถ้าเราแบ่งจำแนกลักษณะของผู้กู้นะครับถ้าแบ่งตามแหล่งรายได้เนี่ยผมแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆครับประเภทแรกคือผู้ที่มีรายได้ประจำหรือเป็นพนักงานเงินเดือนน่ะครับในเคสนี้ผมคิดว่าไม่ค่อยมีปัญหาอะไรกันนะครับคนที่เป็นพนักงานเงินเดือนและมีการวางแผนทางการเงินที่ดีมีวินัยทางการเงินเก็บออมเงินไม่สร้างหนี้จนเกินตัวเนี่ยโอกาสที่จะกู้สินเชื่อบ้านผ่านมีสุขมากๆแล้วครับวงเล็บว่าถ้าฐานรายได้ถึงนะครับ
4.ภาระหนี้สินเยอะเกินไป
หลังจากจบส่วนแรกที่เป็นเรื่องรายได้ไปแล้วครับธนาคารก็จะมาดูอีกส่วนหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาสินเชื่อเหมือนกันนะครับเรื่องนี้คือเรื่องภาระหนี้สินของเราครับ ซึ่งให้เข้าใจตรงกันก่อนนะครับว่าธนาคารจะรู้ได้ยังไงว่าเรามีภาระหนี้สินเท่าไหร่ครับภาระหนี้สินในที่นี้คือภาระหนี้สินที่เป็น Fixed cost ที่เป็นหนี้ในระบบเครดิตบูโร ยกตัวอย่างเช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้รถยนต์หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล และหนี้ กยศ ภาระหนี้เหล่านี้ครับจะถูกบันทึกไว้ในข้อมูลเครดิตบูโรและจะออกมาเป็นภาระหนี้ของเราครับ ดังนั้นถ้าเราจะไปกู้สินเชื่อบ้านหรือไปกู้ซื้อบ้านสิ่งที่เราควรทำก็คือเราไม่ควรสร้างภาระหนี้อื่นๆไว้กับตัวเองให้มากเกินไปครับหรือถ้าจะมีก็มีได้แต่จำนวนที่กำลังดีไม่มากจนเกินไปครับ
5.ติดค้ำประกันให้กับผู้อื่น
จริงๆประเด็นนี้เป็นประเด็นที่สำคัญแล้วก็น่าเห็นใจมากๆนะครับสำหรับกรณีที่เราเคยไปค้ำประกันให้กับใครสักคนหนึ่งนะครับและเขาเนี่ยไม่ยอมส่งธนาคารนะครับผิดนัดชำระหนี้จนทำให้ให้ไอ้คนที่ค้ำประกันอย่างเราเนี่ยซวยไปด้วย
แต่ตรงนี้ให้เข้าใจตรงกันก่อนนะครับว่าการค้ำประกันแล้วคนที่เราไปค้ำประกันให้เนี่ยผิดนัดชำระจะไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในข้อมูลเครดิตบูโรนะครับเพียงแต่มันจะเป็นอีกหนึ่ง checklist ที่ธนาคารเขาก็ดูเหมือนกันนะครับว่าเราเคยไปค้ำประกันให้ใครแล้วไอ้คนนั้น มีประวัติการผิดนัดชำระหรือเปล่า
6.อายุงานหรืออายุธุรกิจไม่ถึงเกณฑ์
ปัจจัยนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญเหมือนกันนะครับที่ทางธนาคารเขาจะมาใช้พิจารณาว่าเขาจะอนุมัติวงเงินสินเชื่อให้เราหรือไม่นะครับนั่นก็คือเรื่องอายุงานหรืออายุของธุรกิจนั้นเองครับคำถามคือทำไมธนาคารเขาถึงอยากรู้ว่าเราทำงานมานานแค่ไหนหรือเราทำธุรกิจมานานแค่ไหน มันเป็นเกณฑ์เบื้องต้นนะครับที่ธนาคารเขาจะกำหนดอย่างเช่นถ้าเราทำงานประจำเนี่ยธนาคารเขากำหนดว่าส่วนมากนะครับต้องทำงานมีอายุงานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปีนะครับถึงจะอนุญาตให้ขอสินเชื่อได้
7.ไม่มีเงินเก็บเงินออม
จริงประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมานานมากแล้วนะครับว่าการกู้บ้านมันเกี่ยวข้องยังไงกับเงินเก็บเงินออมด้วยหรือเปล่าจากที่ผมได้คุยกับพนักงานสินเชื่อนะมาหลายแบงค์แล้วนะครับเขาก็ตอบตรงกันนะว่าจริงๆแล้วเรื่องเงินกู้นะครับไม่ค่อยได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องเงินเก็บเงินออมหรือเงินที่เราฝากเข้าถอนออกนะครับในปัจจุบันนี้นะเพราะไอ้เรื่องพวกนี้มันสามารถนี้กันได้ถูกไหมเราสามารถไปยืมเงินใครมาก่อนก็ได้แล้วเอามาฝากอยู่ในบัญชีเราทำเหมือนเรามีเงินเยอะๆแต่ที่จริงเราไม่มีเงินเลย
8.เครติตไม่ดี + ไม่มีวินัยทางการเงิน
อันนี้เป็นหัวข้อที่สำคัญมากๆเลยนะที่จะเป็นปัจจัยบอกเลยว่าจะกู้ผ่านหรือไม่ผ่านนะครับนั่นคือเรามีเครดิตดีหรือเปล่านะครับคำว่าเครดิตดีก็คือเราเป็นลูกหนี้ที่กู้แล้วส่งเงินกู้ตรงตามเวลาหรือเปล่าส่งครบหรือเปล่ามีการเบี้ยวนัดชำระหรือเปล่าตรงนี้สำคัญมากๆนะครับ คุณลองคิดภาพตามผมสิถ้าคุณจะให้คนคนนึงยืมเงินแต่คนที่จะมายืมเนี่ยชอบเบี้ยวหนี้คนอื่นนะครับชอบหนีหนี้จ่ายไม่ครบจ่ายล่าช้าเราอยากให้เขายืมเงินไหม
นั่นแหละครับสิ่งที่ธนาคารเขาอยากรู้ก็คือเราเป็นลูกหนี้ชั้นดีหรือเปล่าเรามีการส่งชำระหนี้ตรงเวลาหรือเปล่าเราเคยผิดนัดชำระหรือเปล่าดังนั้นการเป็นลูกหนี้ที่ดีการรูดบัตรเครดิตและผ่อนตรงตามเวลาผ่อนครบไม่มีการชำระขั้นต่ำจะถือว่าเราเป็นคนที่มีเครดิตทางการเงินดีและมีวินัยทางการเงินดีครับมันจะเพิ่มโอกาสในการผ่อนชำระให้เราด้วย
กู้บ้าน กู้บ้านไม่ผ่าน กู้ไม่ผ่าน สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบ้าน
กู้เงินซื้อที่ดิน พร้อมกู้ปลูกสร้างบ้าน ต้องทำยังไง?
สำหรับคนที่มีปัญหา กู้เงินซื้อบ้านไม่ผ่าน ขอสินเชื่อกับ ธนาคารไม่ผ่าน แบงก์ ไม่อนุมัติ หรือ ท่านที่เคยมีปัญหาติดเครดิตบูโร และได้ปิดหนี้ไปแล้ว แต่ก็ยังยื่นขอสินเชื่อไม่ผ่าน
จากประสบการณ์กว่า 20 ปี ในตำแหน่ง วิเคราะห์สินเชื่อ จากสถาบันการเงินชั้นนำหลายๆ แห่ง ผมทำงานมาหลายแบงก์ครับ และสายสัมพันธ์ ทั้งเพื่อนร่วมงานเก่า และเจ้านายเก่าๆ ของผม ที่ผมมีคอนเนคชั่นกันอย่างลึกซึ้ง ผมยินดีที่จะแนะนำ ทริค และเทคนิค วิธีการต่างๆ ในการกู้เงินซื้อบ้าน วิธีขอสินเชื่อให้ผ่าน แบงก์ไหน ธนาคารไหน ปล่อยง่าย เทคนิควิธีการเดินบัญชี ทำยังไงให้กู้บ้านผ่าน เทคนิคการซื้อบ้านแล้วมีเงินเหลือ เทคนิคการดันราคาประเมินบ้าน ต่างๆ เหล่านี้ ผมพร้อมที่จะสอนและแนะนำ จาก ความรู้ และประสบการณ์กว่า 20 ปี ของผม
อะไรบ้างที่คุณจะได้จากผม
1. เทคนิค และวิธีการการเตรียมเอกสาร
2. เทคนิค และวิธีการเจรจา และนำเสนอข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคาร อันนี้สำคัญมากนะครับ
3. และในปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่าง ขั้นตอนการยื่นเรื่อง ติดต่อประสานงานกันได้ตลอดเวลาครับ
เพียงแค่ท่าน ชำระเงิน จำนวน 2,000 บาท มาที่
SCB ธนาคาร ไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 407 0 55631 0
KBank ธนาคาร กสิกรไทย เลขที่บัญชี 766 2 21897 3
ชื่อบัญชี Yuttana Kosakul
แล้ว ส่งข้อความมาที่ Line ID : @antonio ( ใส่เครื่องหมาย @ ด้วยนะครับ ) แล้วนัดเวลาที่คุณสะดวก เพื่อโทรคุยกันอีกทีครับ
หรืออีกหนึ่งรูปแบบ
ให้ท่านติดต่อ เข้ามาที่ LineID : @antonio ( ใส่เครื่องหมาย @ ด้วยนะครับ ) เพื่อนัดหมาย เวลาและสถานที่ ในการให้คำแนะนำด้านการเตรียมเอกสารและเทคนิควิธีการยื่นกู้ ขอสินเชื่อบ้าน โดยคิดอัตราค่าบริการ ให้คำปรึกษา 5,000 บาท ไม่มีกำหนดเวลาสอบถามได้ ตลอดเวลา หลังจากสอนกันครั้งแรกแล้วครับ
สถานที่นัดหมาย
The Wisdom Lounge ของ KBank ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด
1. Kbank สาขา เซ็นทรัลบางนา
2. Kbank สาขา ซีคอนสแควร์
3. Kbank สาขา พาราไดซ์ พาร์ค
หรือที่ร้าน Starbucks
1. ร้าน สตาร์บัค สาขา สมิติเวช ศรีนครินทร์
2. ร้าน สตาร์บัค สาขา ซีคอนสแควร์
3. ร้าน สตาร์บัค สาขา พาราไดซ์ พาร์ค
4. ร้าน สตาร์บัค สาขา ธัญญา พาร์ค
5. ร้าน สตาร์บัค สาขา เดอะมอลล์ บางกะปิ
6. ร้าน สตาร์บัค สาขา เดอะ นายน์ พระรามเก้า
7. ร้าน สตาร์บัค สาขา เซ็นทรัล บางนา
ผมเป็นเจ้าของ เวปไซต์ http://antonioattorney.blogspot.com และ
เวปไซต์ http://antonioattorney.com และเพจนี้ https://www.facebook.com/AntonioAttorney/ ครับ
ลองดูโปรไฟล์ต่างๆ ของผม เพื่อการตัดสินใจของคุณครับ ผมรอคุณอยู่ครับ เพื่อที่จะได้แนะนำ เทคนิค วิธีการต่างๆ ให้คุณได้สำเร็จ และสมหวัง ในการที่ จะยื่นกู้ซื้อบ้านให้ผ่าน สมหวัง ตามความฝันของทุกๆ คนที่อยากจะมีบ้านกันนะครับ
EP[กู้ซื้อบ้านครั้งแรก] – #1 เลือกธนาคารไหนดี?
หมวด ‘กู้ซื้อบ้านครั้งแรก’ เราจะเรียงข้อมูลตามนี้ค่ะ
EP1 กู้ซื้อบ้านกับธนาคารไหนดี? https://youtu.be/VZrbcOxGX0M
EP2 เงินดาวน์จำเป็นต้องมีไหม? ถ้าไม่มีสามารถซื้อได้ไหม? https://youtu.be/CIkAKt_gFjg
EP3 ดอกเบี้ยบ้าน การผ่อนแบบขั้นบันไดเป็นยังไง? https://youtu.be/xgNCR7IpKm4
EP4 MRR3.725% แปลว่าอะไร? https://youtu.be/xlmukioafw
EP5 ค่างวดในการจ่ายค่าบ้าน https://youtu.be/zI5BltgFAs
EP6 ประเมินรายได้ในการชำระหนี้
EP7 ค่าใช้จ่ายแฝง [ค่าประเมิน,ค่าประกันอัคคีบ้าน,ค่าประกันชีวิต ]และใน EP1 กู้ซื้อบ้านกับธนาคารไหนดี? นี้
เชื่อว่าหลายๆ คนกำลังมองหาธนาคารเพื่อนำไปพิจารณาเงื่อนไขที่เหมาะกับเราที่สุด
อายุเท่านี้กู้บ้านได้ไหม?
เงินเดือนเท่านี้กู้ผ่านไหม?
ทำงานเป็นคนค้าขายออนไลน์ เป็นฟรีแลนซ์จะยื่นได้ไหม?
วันนี้ทรายเลยขอทำหน้าที่มาเล่าประสบการณ์การกู้ซื้อบ้านและการเลือกธนาคารให้เหมาะกับโจทย์ของแต่ละบ้านค่ะ
กู้บ้านหลังแรก ธนาคารปล่อยกู้บ้าน ซื้อบ้านหลังแรก
ปี 2564 ธนาคารไหนดอกเบี้ยบ้านต่ำที่สุด จะซื้อบ้านต้องดู!! อัพเดทดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน 7 ธนาคาร
ปี 2564 ธนาคารไหนดอกเบี้ยบ้านต่ำที่สุด จะซื้อบ้านต้องดู!! อัพเดทดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน 7 ธนาคาร
จนมาถึงต้นปี 2564 นี้ครับอัตราดอกเบี้ยบ้านโดยเฉลี่ยของทั้งตลาดก็ยังคงอยู่ในอัตราที่ไม่สูงมากครับ ดังนั้นครับในช่วงต้นปีนี้ (ก่อนที่ดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นนะครับ) สำหรับคนที่วางแผน มีการเตรียมพร้อมสำหรับการซื้อบ้านอยู่แล้วผมเชื่อว่าต้นปีนี้เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ดีมากๆที่เราจะซื้อบ้านเลยครับ
และผมเสริมให้อีกนิดนึงนะครับปี 2564 นี้รัฐบาลได้มีประกาศลดค่าโอนค่าจดจำนองจองต่อีกในปี 2564 นี้ครับ
https://youtu.be/JarWd5G08NQ
สินเชื่อบ้านธนาคารออมสิน
ระยะเวลาขอ 30/04/2564
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 2.68%
MRR = 6.245%
ระยะเวลากู้ 40 ปี
วงเงินกู้สูงสุด 100%
กรณีซื้อบ้านใหม่ / ปลูกสร้าง
ธนาคารธอส
โครงการสินเชื่อบ้านคนละหลัง
ระยะเวลาขอ 30/06/2564
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 2.75%
MRR = 6.15%
ระยะเวลากู้ 40 ปี
วงเงินกู้สูงสุด 100% (ไม่เกิน สองล้าน)
ธนาคารกรุงไทย
สินเชื่อบ้านธนาคารกรุงไทย
ระยะเวลาขอ 31/03/2564
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 2.73%
MRR = 6.22%
ระยะเวลากู้ 30 ปี
วงเงินกู้สูงสุด 100%
ดอกเบี้ยปีแรกเริ่มต้น 0.64% ต่อปี
ธนาคารกรุงศรี
สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย
ระยะเวลาขอ 31/03/2564
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 3.52%
MRR = 6.05%
ระยะเวลากู้ 30 ปี
วงเงินกู้สูงสุด 90%
สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ราคามากกว่า 5 ล้าน
ธนาคารกสิกร
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 5.2%
MRR = 5.97
ระยะเวลากู้ 30. ปี
วงเงินกู้สูงสุด 90%
กรณีกู้ซื้อบ้านใหม่หรือบ้านมือสอง หรือ ปลูกสร้างบ้านเ
ธนาคารกรุงเทพ
สินเชื่อบ้านบัวหลวง
ระยะเวลาขอ 31/03/2564
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 3.83%
MRR = 5.75%
ระยะเวลากู้ 35 ปี
วงเงินกู้สูงสุด 95%
วงเงินตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท
สินเชื่อบ้านธนาคารไทยพาณิชย์
ระยะเวลาขอ 31/03/2564
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี =5.995%
MRR = 5.995%
ระยะเวลากู้ 30 ปี
วงเงินกู้สูงสุด 100%
และสำหรับคนที่กำลังวางแผนจะซื้อบ้านนะครับผมได้ทำคลิปเกี่ยวกับการวางแผนสำหรับคนที่กำลังจะกู้ซื้อบ้านว่า เราควรจะต้องวางแผนยังไง เตรียมความพร้อมยังไง จัดสรรเรื่องการเงินยังไง ให้ยื่นกู้แล้วผ่านชัวๆ ผมได้ทำสรุปไว้ในคลิป vdo แล้วนะครับ
กู้บ้าน ยังไงให้ผ่านผ่าน 100% เคล็ดลับการขอสินเชื่อบ้านกับธนาคารที่ควรต้องรู้ !
https://youtu.be/vWHsv3dwfQ
เพิ่มเติมนิดนึงสำหรับคนที่เพิ่งเข้ามาดูและยังไม่ทราบว่า รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร ทำไมพอผ่อนบ้านไปครบ 3 ปี ถึงต้องรีไฟแนนซ์ผมทำคลิปอธิบายไว้อย่างละเอียดเลยนะครับสามารถเข้าไปดูได้ที่
รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร ทำไมผ่อนบ้านครบ 3 ปีต้อง Refinance
https://youtu.be/NsI2IwVv8g0
น่าจะเป็นประมานนี้นะครับสำหรับคนที่กำลังมองหาธนาคารเพื่อที่จะไปกู้ซื้อบ้าน แต่เลือกไม่ถูกว่าจะกู้ธนาคารไหนดีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคลิปนี้จะช่วยเป็นตัวเลือกให้ทุกๆคนตัดสินใจได้ดีขึ้นนะครับ
แต่สุดท้ายที่เราจะจากกันไปผมอยากจะฝากทุกๆคนไว้นิดนึงนะครับว่า ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงต้นปี 2564 ยังคงเป็น Golden Peroid ที่ทุกอย่างมันดูเหมือนจะน่าซื้อ น่าลงทุนไปหมด แต่สิ่งหนึ่งที่ผมย้ำเสมอและผมเชื่อว่ามันสำคัญมากๆคือ
“เราต้องประเมินความเสี่ยง” ที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิตเราไว้ด้วยนะครับ แน่นอนว่าวันนี้บ้าน คอนโดเขาลดราคา วันนี้อัตราดอกเบี้ยมันถูก แต่ถ้าสถานะทางการเงินเรายังไม่พร้อม หรือ เรายังไม่จำเป็นที่ต้องซื้อ ผมก็คิดว่าเราไม่ควรห่วงเรื่องส่วนลด เรื่องโปรโมชั่น จนลืมตรวจสอบความจำเป็นและความพร้อมของตัวเรานะครับ เพราะสุดท้ายแล้วถ้าเราตัดสินใจโดยขาดการไตร่ตรอง และ วางแผน การซื้อบ้านของเรามันจะกลับมาสร้างเป็นปัฐหาที่ใหญ่และปวดหัวให้เรามากๆเลยครับ
สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบ้าน2564 ดอกเบี้ยบ้าน2564 ซื้อบ้าน2564 สินเชื่อบ้านธนาคารออมสิน สินเชื่อบ้านธอส สินเชื่อบ้านกสิกร สินเชื่อบ้านกรุงไทย สินเชื่อบ้านกรุงศรี สินเชื่อบ้านไทยพาณิชย์ สินเชื่อบ้านบัวหลวง
กู้ซื้อบ้านจะเลือกดอกเบี้ยบ้านแบบไหนดี | วิธีเลือกสินเชื่อบ้าน
กู้ซื้อบ้านจะเลือกดอกเบี้ยบ้านแบบไหนดี | วิธีเลือกสินเชื่อบ้าน
สวัสดีครับผม วิน Guru Living ครับ วันนี้ผมจะคุยกับหัวข้อที่ได้รับความสนใจมากๆและผมเชื่อว่าต้องเป็นปัญหาของหลายๆคนแน่ๆครับ นั่นคือ เวลาที่เราจะกู้ขอสินเชื่อบ้านเราจะเลือกดอกเบี้ยบ้านแบบไหนดี ดอกเบี้ยบ้านแบบไหนที่เหมาะกับเราคลิปนี้ผมจะมาสรุปให้ฟังครับ
ลักษณะของดอกเบี้ยบ้านที่เราจะมาคุยกันวันนี้นะครับมันจะแบ่งได้ 2 แบบหลักๆครับนั่นคือแบบคงที่และแบบลอยตัวครับ
ดอกเบี้ยบ้านแบบคงที่คือ
ดอกเบี้ยบ้านที่ธนาคารจะกำหนดเป็นค่าตายตัวเลยครับว่าปีที่เท่านี้เราจ่ายดอกเบี้ยเท่าไหร่ยกตัวอย่างเช่นบางธนาคารบอกว่าให้อัตราดอกเบี้ยคงที่
ปีที่ 1 2.5%
ปีที่ 2 2.8%
ปีที่ 3 3%
ดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายให้กับธนาคารก็จะเป็นไปตามที่ตกลงตามนี้เลยครับไม่มีการเพิ่มขึ้นหรือลดลง
แต่สำหรับดอกเบี้ยบ้านอีกแบบนะครับเรียกว่าดอกเบี้ยแบบลอยตัวครับ
ขึ้นดอกเบี้ยแบบลอยตัวนี้ครับอัตราดอกเบี้ยจะถูกหรือแพงจะขึ้นอยู่กับค่าที่เรียกว่า MRR ครับ Minimum Retail Rate อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารปล่อยให้กับลูกค้ารายย่อยนะครับก็คือถ้าเรากู้สินเชื่อบ้านหรือว่าสินเชื่อส่วนบุคคลเนี่ยเราก็จะใช้ค่า mrr ตัวนี้ล่ะครับในกรณีเราเป็นลูกค้ารายย่อยทั่วไป
โดยถ้าเป็นดอกเบี้ยแบบลอยตัวธนาคารก็อาจจะกำหนดว่าเช่น
ปีที่ 1 MRR 4
ปีที่ 23 MRR 3
ซึ่งถ้าธนาคารให้อัตราดอกเบี้ยมาแบบนี้ครับเราก็ต้องมาดูค่า mrr ปัจจุบันของธนาคารนั้นๆครับว่าตอนนี้ MRR ของเขาอยู่ที่เท่าไร
ยกตัวอย่างให้ดูแบบเห็นภาพชัดๆเลยนะครับสมมุติว่าผมไปกู้เงิน
ธนาคาร A ตอนนี้ mrr ของธนาคารนี้อยู่ที่ 6%
ถ้าแทนค่าจากโจทย์ด้านบนจะได้เป็น
ปีที่ 1 MRR 4 = 64 = 2%
ปีที่ 23 MRR 3 = 6 3 = 3%
สวัสดีครับก็เป็นทั้ง 2 รูปแบบของอัตราดอกเบี้ยนะครับซึ่งโดยปกติเวลาเราไปกู้ซื้อบ้านหรือรีไฟแนนซ์บ้านครับเราจะต้องเลือกว่าเราจะเลือกแบบไหน
มาถึงคำถามสำคัญนะครับว่าตกลงแบบไหนดีกว่ากันนะครับ
โดยส่วนมากแล้วนะครับ ถ้าเราเลือกอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวครับอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยแล้วจะถูกกว่าแบบคงที่มากๆครับเพราะธนาคารไม่จำเป็นต้องแบกความเสี่ยง
ความเสี่ยงอะไรรู้ไหมครับ ถ้าเราเลือกอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวครับอัตราดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายธนาคารจะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยนโยบายโดยรวมของประเทศครับ ดังนั้นครับหมายความว่าถ้าช่วงไหนอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศลดลงช่วงนั้นเราก็จะจ่ายดอกเบี้ยต่ำไปด้วยครับ เหมือนช่วงเวลานี้นะครับที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายค่อนข้างต่ำ แต่ในทางกลับกันครับ ถ้าเกิดว่าช่วงไหนอัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นหมายความว่าเราต้องจ่ายดอกเบี้ยใน Rate ที่แพงขึ้นเหมือนกันครับ
ซึ่งจริงๆแล้วแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายครับ ของประเทศต่างๆทั่วทั้งโลกเลยนะครับจริงๆมันมีแนวโน้มเป็น Down Trend หรือจะลดลงเรื่อยๆครับ แต่มันก็มีบางช่วงเวลาเหมือนกันนะครับที่ดอกเบี้ยนโยบายปรับตัวขึ้นดังนั้นก็เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังและทำความเข้าใจกันนะครับ
แต่สำหรับคนที่เลือกอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่หรือที่เรียกว่า Fix Rate นะครับ ผมต้องบอกว่าการเลือกแบบนี้ครับเราไม่ต้องสนใจเศรษฐกิจไม่ต้องสนใจดอกเบี้ยนโยบายว่าเขาจะเพิ่มหรือเขาจะลดเลยครับเราจ่ายดอกเบี้ยตามแต่ตกลงกับธนาคารเลย
ดังนั้นครับกลับมาคำถามเลยว่าตกลงเราควรเลือกอะไรดีครับของผมนะครับเอาที่เราสบายใจครับถ้าเกิดว่าเราคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยนโยบายจะลดลงเรื่อยๆนะครับเราก็อาจจะเลือกเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวก็ได้เพราะเราจะได้ดอกเบี้ยที่ถูกลงเรื่อยๆครับแบบนี้ก็โอเคหรือถ้าใครเป็นคนไม่ชอบเสี่ยงหรือไม่ชอบลุ้นนะครับอยากได้อะไรที่มันคงที่เป็นตัวเลขที่สามารถคำนวณได้ก็อาจจะเลือกเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ซึ่งมันก็ไม่มีผิดไม่มีถูกนะครับ
ต้องบอกอย่างนี้นะครับว่าอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันสัก 12 เปอร์เซ็นต์ สำหรับบางคนเขายอมแลกมาครับเพื่อความสบายใจเล็กๆน้อยๆนะไม่ต้องมากังวลว่าต่อให้เศรษฐกิจมันเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหนต่อให้ดอกเบี้ยมันขึ้นขนาดไหนเขาก็ยังจ่ายในอัตราที่เขายอมรับได้แบบนี้มันก็มีเหมือนกันนะครับสุดท้ายก็ลองไปพิจารณากันดูนะฮะ
ดอกเบี้ยบ้าน กู้บ้าน เลือกดอกเบี้ยบ้าน ดอกเบี้ย สินเชื่อบ้าน
นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆwes-and-vps/