Home » THINK’s UPDATE EP.115 : 3 เทคนิค ผ่อนบ้านอย่างไร ให้เสียดอกเบี้ยน้อย | ดอกเบี้ย บ้าน รี ไฟแนนซ์

THINK’s UPDATE EP.115 : 3 เทคนิค ผ่อนบ้านอย่างไร ให้เสียดอกเบี้ยน้อย | ดอกเบี้ย บ้าน รี ไฟแนนซ์

THINK’s UPDATE EP.115 : 3 เทคนิค ผ่อนบ้านอย่างไร ให้เสียดอกเบี้ยน้อย


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

เมื่อจะซื้อบ้านสักหลังหนึ่งนั้น คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะกู้สินเชื่อบ้านกับทางธนาคาร เมื่อกู้ผ่านแล้วก็ต้องผ่อนจ่ายรายเดือนไปพร้อมๆกับการเสียดอกเบี้ย
แล้วเราจะทำอย่างไรให้เสียดอกเบี้ยต่ำๆ จ่ายไม่เยอะ หลายคนก็คงอยากจะรู้ใช่มั้ยคะ THINK’s UPDATE ใน ep นี้ พัดจะมาแชร์
“3..เทคนิค ผ่อนบ้านอย่างไร ให้เสียดอกเบี้ยน้อย” ซึ่งจะมีเทคนิคอะไรบ้างนั้น ตามพัดไปดูเลยค่ะ
กู้บ้าน ผ่อนบ้าน ดอกเบี้ยบ้าน
บทความ ผ่อนบ้านอย่างไร “เสียดอกเบี้ยน้อยที่สุด” : https://wp.me/p1YZB12yXC
………………………………………………………………………………………………………
ติดตามพวกเราได้ที่ 😍
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving

THINK's UPDATE EP.115 : 3 เทคนิค ผ่อนบ้านอย่างไร ให้เสียดอกเบี้ยน้อย

รีไฟแนนซ์บ้าน vs ขอลดดอกเบี้ย | ผ่อนบ้านครบ 3 ปีเลือกแบบไหนคุ้มสุด ผ่อนบ้านต้องดู


รีไฟแนนซ์บ้าน vs ขอลดดอกเบี้ย | ผ่อนบ้านครบ 3 ปีเลือกแบบไหนคุ้มสุด ผ่อนบ้านต้องดู
สวัสดีครับผม วิน Guru Living ครับ วันนี้ผมจะคุยกับหัวข้อที่ได้รับความสนใจมากๆและผมเชื่อว่าเป็นปัญหาของหลายๆคนเลยนะครับ นั่นคือเมื่อเราผ่อนบ้านไปครบ 3 ปีแล้วเราควรที่จะไปรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่เลยดีไหม หรือจะขอ retention หรือที่เรียกว่าขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิมต่อ ดีหรือเปล่า มันมีหลักการคิดหลักการดูยังไงบ้างแล้ว 2 แบบนี้มันแตกต่างกันยังไงบ้างเดี๋ยววันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังครับ
ผมขอปูพื้นฐานให้สำหรับคนที่เพิ่งมาดูคลิปนี้คลิปแรกฟังนิดนึงก่อนนะครับ โดยปกติแล้วครับอัตราดอกเบี้ยบ้านเนี่ยเขาจะถูกในช่วง 3 ปีแรกเท่านั้นครับ 3 ปีแรกเนี่ยถ้าเอาราคาตลาดณเวลานี้นะครับจะอยู่ที่ประมาณ 34 % ต่อปีครับ แล้วพอพ้นจากปีที่ 3 เป็นอัตราดอกเบี้ยก็จะลอยตัวแล้วครับเป็น mrr เท่าไหร่ก็ว่ากันไปครับแต่โดนค่าเฉลี่ยแล้วก็จะอยู่ที่ประมาณ 6% ต่อปี
ดังนั้นครับสำคัญมากๆเลยนะฮะทุกคนที่ผ่อนบ้านครบ 3 ปีแล้วควรจะต้องหาวิธีที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยมันกลับมาถูกเหมือนในช่วง 3 ปีแรกครับซึ่งทั้งการรีไฟแนนซ์และการรีเทนชั่นที่เรากำลังคุยกันอยู่ในคลิปนี้ครับทั้งสองวิธีนี้ล้วนช่วยให้อัตราดอกเบี้ยกลับมาถูกลงทั้งคู่ครับ
รีไฟแนนซ์คืออะไร https://youtu.be/NsI2IwVv8g0
งั้นกลับมาที่คำถามของเรากันครับว่าแล้วตกลงรีไฟแนนซ์กับดีเทนชั่นเราควรเลือกอะไรดีทั้ง 2 อันนี้มีอะไรที่แตกต่างกันบ้างเดี๋ยวผมจะมาไล่ให้ฟังทีละข้อนะครับ
รีไฟแนนซ์บ้าน (Refinance)
รีไฟแนนซ์บ้านเป็นการย้ายสินเชื่อจากธนาคารเดิมไปธนาคารใหม่ครับ ซึ่งพอเราย้ายไปเริ่มต้นกับธนาคารใหม่เราจึงได้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ในเรทราคาที่ต่ำครับซึ่งถ้าจะเอาราคาในตลาด ณ เวลานี้ครับก็อย่างที่บอกไปว่าอยู่ที่ประมาณ 3% เท่านั้นเองครับอัตราดอกเบี้ยถูกมากในช่วงนี้
ซึ่งแน่นอนครับว่าการขอสินเชื่อใหม่จะต้องมีกระบวนการยื่นเอกสารรายได้พร้อมกับ การตรวจสอบเครดิตทางการเงินเข้ามาไม่ได้ต่างอะไรกับการที่เราไปขอสินเชื่อบ้านตอนแรกเลยครับ
รีเทนชั่นบ้าน
แต่สำหรับการรีเทนชั่นนะครับรีเทนชั่นถ้าแปลเป็นไทยคือการขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิมครับซึ่งกระบวนการนี้จะแตกต่างจากการรีไฟแนนซ์นะครับคือเราไม่ต้องย้ายธนาคารเราทำกับธนาคารเดิมที่เราผ่อนอยู่เลยครับเพียงแค่แจ้งธนาคารว่าเราต้องการที่จะรีเทนชั่นหรือขอลดดอกเบี้ยเมื่อเราผ่อนครบ 3 ปีหรือแล้วแต่เงื่อนไขธนาคารกำหนดรับเขาก็จะลดอัตราดอกเบี้ยปรับลงมาให้เราครับ แต่ผมต้องบอกนะครับว่า อัตราดอกเบี้ยที่เขาจะลดมาให้เราเนี่ยจำไม่ได้ถูกเท่ากับในช่วง 3 ปีแรกครับโดยส่วนมากค่าเฉลี่ยนะครับธนาคารจะลดให้เหลืออยู่ที่ ประมาณ 45% ต่อปีครับ

ค่าใช้จ่าย รีไฟแนนซ์ vs รีเทนชั่น
แต่นอกเหนือจากอัตราดอกเบี้ยแล้วมันยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องพิจารณาประกอบด้วยนะครับการที่เราจะเลือกว่าจะ refinance ดีหรือรีเทนชั่นดี ปัจจัยที่ว่านั่นคือค่าใช้จ่ายครับเป็นอีกปัจจัยหลักที่ผมคิดว่าทุกคนควรจะเอามาประกอบการตัดสินใจเหมือนกันครับ
ค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์
ค่าประเมินราคาทรัพย์ ประมาณ 35 พันบาท
ค่าจดจำนอง จ่ายให้กรมที่ดิน 1% ของวงเงินกู้
ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงิน
ค่าธรรมเนียมอื่นๆ ของธนาคาร เช่น
ค่าธรรมเนียมสินเชื่อ
ประกันอัคคีภัย

แต่การรีเทนชั่นคับ ใช้จ่ายจะน้อยกว่านั้นมากครับโดยส่วนมากจะคิดเป็นประมาณนะครับ 12 เปอร์เซ็นต์ของยอดวงเงินกู้คงเหลือหรือบางธนาคารไม่มีค่าธรรมเนียมตรงนี้ก็มีเหมือนกันนะครับ

ดังนั้นถ้าจะสรุปง่ายๆนะครับโดยส่วนมากแล้วการรีไฟแนนซ์จะมีค่าใช้จ่ายที่มากกว่าการรีเทนชั่นนะครับ ซึ่งก็ต้องเอาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการพิจารณาด้วยนะครับ

สรุป รีไฟแนนซ์ vs รีเทนชั่น
ดังนั้นเรามาสรุปกันครับว่าตกลงแล้วเราควรรีไฟแนนซ์หรือรีเทนชั่นดีจะเอาเกณฑ์อะไรเป็นตัวพิจารณา
1.เครดิตทางการเงิน
ดูสถานะทางการเงินของเราตอนนี้ครับว่าวันนี้เรามีเครดิตทางการเงินดีเพียงพอที่จะไปยื่นกู้ขอสินเชื่อใหม่หรือเปล่าดูง่ายครับว่าวันนี้สัดส่วนหนี้สินต่อรายได้ของเราอยู่ที่เท่าไหร่แล้ว
หรือวันนี้รายได้ของเรามีความมั่นคงมากพอจะขอสินเชื่อหรือเปล่า
การ refinance ครับ ครับสำหรับพนักงานประจำหรือคนที่มีเงินเดือนผมคิดว่าไม่น่าจะติดปัญหาอะไรครับที่จะมีปัญหาส่วนมากน่าจะเป็นพวกกลุ่มอาชีพอิสระผู้ประกอบการที่ บางจังหวะบางช่วงเวลาเครดิตทางการเงินไม่ดีแบบนี้ครับการรีไฟแนนซ์อาจจะทำได้ยากก็อาจจะต้องมาเลือกเป็นรีเซฟชั่นแทน เพราะไม่ต้องมีการยื่นเอกสารอะไรแค่ทำเรื่องเข้าไปที่ธนาคารเดิมก็จบแล้ว

2.ดูค่าใช้จ่าย
เรื่องนี้สำคัญมากนะครับเรื่องเงินเงินทองทองผมคิดว่าเราควรจะใช้อารมณ์ในการตัดสินใจให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับเวลาพูดถึงเรื่องรายจ่ายหรือตัวเลขครับอยากให้เราคำนวณออกมาชัดๆแล้วมาเปรียบเทียบกันเลยครับว่าระหว่างการรีไฟแนนซ์มีค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเท่านี้และการรีเทนชั่นมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเท่านี้ และจะประหยัดดอกเบี้ยได้เท่านี้บาทเนี่ยครับอยากให้คำนวณออกมาเลย เดี๋ยวผมสัญญานะครับว่าในคลิปถัดไปเนี่ยเดี๋ยวผมจะคำนวณเป็นตัวเลขออกมาให้ดูทั้งสองแบบเลยว่าตกลงแล้วแบบไหนมันประหยัดดอกเบี้ยไปได้เท่าไหร่นะครับขอติดไว้ก่อน แต่ว่าถ้าใครคำนวณเป็นอยู่แล้วก็ลองคำนวณ เพื่อประกอบการพิจารณาได้เลยนะครับ

ดังนั้นทั้งหมดนี้นะครับก็เป็นความแตกต่างระหว่างการรีไฟแนนซ์และการ retention ที่เอามาเล่าให้ทุกคนฟังกันนะครับก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์และนำไปใช้กันได้นะครับซึ่งจริงทั้ง 2 วิธีครับมันคือการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างที่ผมบอกไปแล้วนะแต่นะครับมันก็ยังมีวิธีนะครับที่ช่วยทำให้เราประหยัดดอกเบี้ยได้มากขึ้นและผ่อนบ้านได้เร็วขึ้นด้วยนะครับซึ่งในที่นี้ครับผมเคยทำคลิปไว้แล้ว
เทคนิคผ่อนบ้าน ให้หนี้หมดเร็วขึ้น 10 ปี ประหยัดดอกเบี้ยเป็นล้าน!!
https://youtu.be/UdUpk9sNPOk

รีไฟแนนซ์บ้าน รีเทนชั่น ผ่อนบ้าน ดอกเบี้ยบ้าน ลดดอกเบี้ยบ้าน ดอกเบี้ย

รีไฟแนนซ์บ้าน vs ขอลดดอกเบี้ย | ผ่อนบ้านครบ 3 ปีเลือกแบบไหนคุ้มสุด ผ่อนบ้านต้องดู

เงินกู้อนุมัติไวใน30นาที 3,000-1,500,000บาท สินเชื่อฉุกเฉินของคนต้องการเงินด่วน


เงินกู้อนุมัติไวใน30นาที 3,0001,500,000บาท สินเชื่อฉุกเฉินของคนต้องการเงินด่วน
เงินกู้อนุมัติไวใน30นาที สินเชื่อฉุกเฉิน เงินกู้ฉุกเฉิน
สินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล 30 นาทีอนุมัติ
สินเชื่อเงินสดส่วนบุคคล 30 นาที จะเป็นกลุ่มสินเชื่อที่เราไปขอกู้เป็นรายครั้งกับทางผู้ให้กู้ ซึ่ง 2 เจ้าที่เน้นว่าสามารถขอสินเชื่อเงินสดอนุมัติไว ที่เราพบเจอก็คือ กสิกร และ UOB
(SOURCE : https://bit.ly/สินเชื่อฉุกเฉินด่วน)
สินเชื่อเงินสด 30 นาที กสิกร
สืนเชื่อเงินสด 30 นาทีอนุมัติที่มีเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำ 7,500 บาทขึ้นไป และมีความน่าเชื่อถือเนื่องจากเป็นสินเชื่อเงินสดจากธนาคารยักษ์ใหญ่ก็คือสินเชื่อเงินด่วนกสิกร ซึ่งทางกสิกรได้ระบุไว้เลยว่าสมัครที่สาขาอนุมัติสินเชื่อเงินสด 30 นาที โดยเตรียมเอกสารให้ครบแล้วสมัครได้ที่ทุกสาขาในเขตกรุงเทพโดยสินเชื่อเงินสด 30 นาทีจากกสิกรนี้มีปล่อยกู้สูงสุด 1.5 ล้านบาท ไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน ให้กู้สูงสุด 60 เดือนเลย ซึ่งก็มีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1526% เท่านั้น (ลดต้นลดดอก) โอนเข้าบัญชีให้หลังจากอนุมัติซึ่งคุณสมบัติผู้สมัครต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีรายได้ 7,500 บาทขึ้นไป ทำงานไม่น้อยกว่า 6 เดือน และอายุ 2070 ปี ใช้เอกสารเช่นสลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือน
สินเชื่อเงินสดจาก บัตรกดเงินสดอนุมัติ 30 นาที
กลุ่มบัตรกดเงินสดอนุมัติไวนี้เหมาะมากๆสำหรับผู้ที่ต้องการสินเชื่อเงินสดอยู่บ่อยครั้ง เพราะนอกจากจะเป็นสินเชื่อเงินด่วนแล้ว การมีบัตรกดเงินสดไว้สำรองใช้ในยามฉุกเฉินคราวต่อๆไป เพียงแค่ไปกด ATM ก็จะได้เงินสดจากวงเงินสินเชื่อของเรา และบัตรกดเงินสดหลายๆที่ก็มีวงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้ด้วย
สินเชื่อเงินสด 30 นาที เฟริสช้อย
สินเชื่อเงินสดจากบัตรกดเงินสดที่อนุมัติไวที่สุดคือ สินเชื่อเงินสด 30 นาทีอนุมัติจากบัตรกดเงินสดเฟริสช้อย ที่คุณสามารถกดเงินด่วนได้ที่ตู้ ATM จากสินเชื่อเงินสดได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังมีสินเชื่อผ่อนชำระให้ใช้ผ่อนสินค้าได้อีกด้วย โดยมีวงเงินสินเชื่อสูงสุดที่ 500,000 บาท
นอกจากช่องทางของตู้ ATM แล้วก็ยังสามารถโทรสั่งเงินสดกับสายด่วน HELLO CASH ได้ก็จะได้เงินด่วนโอนเข้าบัญชี โดยใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ 13 วัน ​(ถ้าด่วนจริงๆไปที่ ATM ดีกว่าครับ)ซึ่งสินเชื่อเงินสด 30 นาทีอนุมัติของเฟริสช้อยนี้มีดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 1628% ต่อปี หรือถ้าใช้ผ่อนสินค้าจะมีดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมที่ 028%
โดยผู้ที่สนใจสมัครบัตรกดเงินสด 30 นาทีอนุมัตินี้จะต้องไปดำเนินการที่สาขาเฟริส์ช้อยส์ ซึ่งจะให้บริการสมัคร อนุมัติ รับบัตรใน 30 นาที จากนั้นก็จะสามารถกดสินเชื่อเงินสดจากตู้ ATM ได้ต่อไป
โดยตัวอย่างสาขาที่เซ็นทรัลก็เช่นที่สาขา พระราม 2, พระราม 3, พระราม 9, ภูเก็ตลาดพร้าว หรือเฟริสช้อยสาขาที่เดอะมอลล์เช่นท่าพระ บางแค บางกะปิ โคราช หรือที่โลตัสเช่น บางกะปิ พนัสนิคม มหาชัย มาบตพุต ระยอง อุตรดิตถ์ หรือจะไปที่ซีคอน สแควร์ก็สามารถสมัครสินเชื่อเงินสด 30 นาทีจากเฟริสช้อยได้ซึ่งบัตรกรุงศรีเฟริสช้อยกำหนดคุณสมบัติขั้นต่ำของผู้สมัครคือ สำหรับบุคคลธรรมดาคือรายได้ขั้นต่ำ 10,000 บาท อายุ 2065 ปี เตรียมเอกสารในการไปสมัครสินเชื่อเงินสด 30 นาทีกับบัตรเงินสดเฟริสช้อยคือสำเนาบัตรประชาชน, สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองรายได้, สเตทเม้นย้อนหลัง 6 เดือน พร้อมหน้าแรกสมุดบัญชี, ถ้ามีเอกสารแสดงรายได้อื่นให้แนบมาด้วย
สามารถอ่านต่อเกี่ยวกับบัตรเฟริสช้อยได้ที่บทความ บัตรเฟริสช้อยมีกี่แบบ
สินเชื่อเงินสดอนุมัติไว อิออน
นอกจากนั้นแล้วเราก็จะขอแนะนำสินเชื่อเงินสดจากบัตร Aeon Member Card ซึ่งเมื่อตรวจสอบจากความเห็นในพันทิปหลายๆท่านก็พูดว่าถ้าไปสมัครที่อิออนเองนั้นจะขอสินเชื่อเงินสด 30 นาทีได้ไวมากๆ
เมื่อมาดูในตัวรายละเอียดแล้วสินเชื่อเงินสดจากบัตรอิออนสามารถสมัครได้ง่ายๆเพียงมีรายได้ขั้นต่ำ 8,000 บาทเท่านั้น อายุ 2065 ปี เมื่อได้บัตรอิออนมาแล้วสามารถใช้กดเงินสดในลักษณะของสินเชื่อเงินสดจากตู้ ATM ได้และนอกจากนั้นก็ยังใช้ผ่อนสินค้าได้ด้วยทางด้านอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมของสินเชื่อเงินสด 30 นาทีจากบัตรอิออน อยู่ที่ไม่เกิน 28% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยจากสินเชื่อผ่อนชำระอยู่ที่ 028% ต่อปี สามารถอ่านต่อได้ที่ วิธีสมัครบัตรอิออนให้ผ่านง่าย
และสำหรับผู้ที่สนใจบัตรกดเงินสดอื่นๆ สามารถอ่านต่อข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ รีวิว 9 บัตรกดเงินสด เงินเดือน 10,000 สมัครได้ ซึ่งก็มีบัตรที่กำหนดรายได้ขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 5000 บาทเท่านั้น
แอพเงินด่วน 30 นาที ถูกกฎหมาย
แอพเงินด่วนเป็นอีกกลุ่มสินเชื่อเงินด่วน 30 นาทีที่น่าสนใจ เพราะว่ารวดเร็ว และเข้าถึงง่าย แต่ต้องระวังในเรื่องความน่าเชื่อถือ และดอกเบี้ย ซึ่งแอพเงินด่วนที่จัดทำโดยบริษัทที่จดทะเบียนกับธนาคารแห่งประเทศไทยที่เราแนะนำก็จะมีแอพเงินทันเด้อ และแอพสุขใจเงินติดปีก โดยมีที่อยู่ติดต่อได้ชัดเจน อ่านต่อเรื่องความน่าเชื่อถือที่บทความ แอพเงินด่วนออนไลน์
แอพเงินทันเด้อ รู้ผลใน 15 นาที
แอพเงินด่วนที่น่าเชื่อถือ และได้รับการขึ้นทะเบียนกับธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับแอพเงินทันเด้อที่มีสินเชื่อเงินสดจากสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ในแอพเงินทันเด้อ
โดยเงินทันเด้อมีอัตราดอกเบี้ยเทียบเท่าที่ 2.92% ต่อเดือน ปล่อยสินเชื่อเงินสดสูงสุด 50,000 บาท รู้ผลอนุมัติใน 15 นาที เราจึงนำมารวมในสินเชื่อเงินสด 30 นาที แบบโอนเข้าบัญชีให้ด้วยโดยแอพเงินทันเด้อนี้สามารถใช้ได้บนแอนดรอย มีความน่าเชื่อถือและจัดทำโดย บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด สามารถติดต่อได้ที่ 025446577

เงินกู้อนุมัติไวใน30นาที 3,000-1,500,000บาท สินเชื่อฉุกเฉินของคนต้องการเงินด่วน

กู้ปีนี้ ผ่อนปีหน้า ดอกเบี้ย 0% นาน 9 เดือน!! สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารออมสิน 2564


กู้ปีนี้ ผ่อนปีหน้า ดอกเบี้ย 0% นาน 9 เดือน!! สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารออมสิน 2564
สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารออมสิน
Case1 : ปลอดเงินต้น+ดอกเบี้ย 0% 9 เดือน
อนุมัติและทำนิติกรรมภายใน 29 ตุลาคม 2564
ผ่อนเริ่มต้นล้านละ 2,000 บาท เดือนที่ 1012
ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 2.5% ต่อปี
Case1 : ปลอดเงินต้น+ดอกเบี้ย 0% 6 เดือน
อนุมัติและทำนิติกรรมภายใน 30 ธันวาคม 2564
ผ่อนเริ่มต้นล้านละ 1,500 บาท เดือนที่ 712
ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 2.5% ต่อปี
รายละเอียด https://www.gsb.or.th/news/gsbpr52/
รีไฟแนนซ์บ้าน รีไฟแนนซ์บ้านออมสิน รีไฟแนนซ์บ้าน2564

กู้ปีนี้ ผ่อนปีหน้า ดอกเบี้ย 0% นาน 9 เดือน!! สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารออมสิน 2564

คนตกงานไตรมาส 3 พุ่ง 8.7 แสนคน สูงสุดตั้งแต่โควิดระบาด – หนี้ครัวเรือนทะลุ 14 ล้านล้านบาท


เมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ เปิดเผยภาวะสังคมไทยไตรมาส 3 ปีนี้ มีคนตกงาน 8.7 แสนคน เพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด19 คิดเป็นอัตราการว่างงานที่ 2.25%
โดยกลุ่มที่จบปริญญาตรี ตกงานมากที่สุด รองลงมาเป็น ปวส. ส่วนใหญ่จบในสาขาบริหารธุรกิจ การตลาด ซึ่งมีแนวโน้มที่จะตกงานยาวนาน เนื่องจากเศรษฐกิจยังขยายตัวจำกัด ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเลิกจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น และชะลอการรับแรงงานใหม่
ส่วนหนี้ครัวเรือน จบไตรมาส 2 ทะลุ 14.24 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% ที่น่าห่วงคือ หนี้กลุ่มบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับการก่อหนี้นอกระบบ ที่มีมูลค่ารวม 8.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 1.5 เท่า จากปี 62
สัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อจีดีพี ยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด ด้านคุณภาพสินเชื่อยังต้องเฝ้าระวังหนี้บัตรเครดิตที่มีหนี้เสียเพิ่มขึ้น แม้ว่าสัดส่วน NPLs ของสินเชื่อเพื่ออุปโภคบริโภคต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 2.92% ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
แต่สัดส่วน NPLs ของสินเชื่อบัตรเครดิตต่อสินเชื่อ รวมเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกันจาก 3.04% ในไตรมาสก่อนมาเป็น 3.51% รวมทั้งลูกหนี้ที่มีปัญหาหนี้เสียจากบัตรเครดิต 1 ใน 3 เป็นผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี
ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาตรการใหม่ หนุนรวมหนี้ข้ามแบงก์ และการรีไฟแนนซ์ ถึงสิ้นปี 66 เพื่อช่วยให้ลูกหนี้จ่ายดอกเบี้ย และค่างวดลดลง โดยสถาบันการเงินไม่มีสิทธิปฏิเสธ และห้ามเรียกเก็บค่าปรับจากการไถ่ถอนสินเชื่อก่อนครบกำหนดด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/program/267010

เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com/news/programs/morning
facebook : https://www.facebook.com/MorningNewsTV3
Twitter : https://twitter.com/MorningNewsTV3
YouTube : https://cutt.ly/MorningnewsTV3

คนตกงานไตรมาส 3 พุ่ง 8.7 แสนคน สูงสุดตั้งแต่โควิดระบาด - หนี้ครัวเรือนทะลุ 14 ล้านล้านบาท

นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่wes-and-vps/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *