Home » ดอกเบี้ยบ้านคิดยังไง รู้ไหม กู้บ้าน 3 ล้านต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารเท่าไร? | อัตราดอกเบี้ยบ้าน 2564

ดอกเบี้ยบ้านคิดยังไง รู้ไหม กู้บ้าน 3 ล้านต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารเท่าไร? | อัตราดอกเบี้ยบ้าน 2564

ดอกเบี้ยบ้านคิดยังไง รู้ไหม กู้บ้าน 3 ล้านต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารเท่าไร?


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

ดอกเบี้ยบ้านคิดยังไง รู้ไหม กู้บ้าน 3 ล้านต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารเท่าไร?
รับชมคลิปเต็มที่
เทคนิคผ่อนบ้าน ให้หนี้หมดเร็วขึ้น 10 ปี ประหยัดดอกเบี้ยเป็นล้าน!!
https://youtu.be/UdUpk9sNPOk
หนี้บ้านสำหรับหลายๆคนแล้วถือว่าเป็นหนี้ก้อนที่ใหญ่ที่สุดและระยะเวลาการผ่อนชำระยาวนานที่สุดเลยก็ว่าได้นะครับ เพราะระยะเวลาที่ธนาคารเขาให้เราผ่อนบ้านเนี่ยเริ่มตั้งแต่ 20 ไปจนถึง 40 ปีเลยก็มีครับ ซึ่งเอาเข้าจิงๆถ้าเราผ่อนไปเรื่อยๆตามที่ธนาคารเขาบอกนี่คือทำงานจนเกษียนเลยนะครับกว่าหนี้ของเราจะหมด
แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือไม่ใช่แค่เรื่องระยะที่นานหรอกนะครับ การผ่อนบ้านให้จำไว้เลยนะครับว่ายิ่งเราผ่อนนานเท่าไร เรายิ่งเสียดอกเบี้ยมากขึ้นเท่านั้น เพราะอะไรหรอครับเพราะว่าการคิดดอกเบี้ยบ้านเนี่ยเขาจะคิดแบบ ลดต้นลดดอกครับ อธิบายง่ายๆว่าดอกเบี้ยจะคิดตามเงินต้นครับ ผมได้ทำคลิปอธิบายเรื่องนี้ไว้อย่างระเอียดแล้วลองเข้าไปดูคลิปในช่องได้นะครับ

ดังนั้นไอการที่เราผ่อนบ้านเป็นเวลา 30 40 ปีเนี่ยนอกจากมันจะเป็นภาระระยะยาวมากๆแล้วเรายังต้องจ่ายดอกเบี้ยอีกเยอะมากๆด้วยครับเดี๋ยวจะหาว่าผมเว่อร์จนเกินไป ผมจะคำนวนออกมาให้ดูกันเลยดีกว่าครับ
สมมุติว่าผมซื้อคอนโดราคา 3 ล้านบาท ผมผ่อน 30 ปี โดยผมกำหนดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยทั้งสัญญาอยู่ที่ 7% เหมือนที่ผมบอกทุกครั้งนะครับว่าที่ผมใช้ 7% เพราะเอาเอาเฉลี่ยทั้งสัญญาและปัดขึ้นนิดนึงเป็นค่าเผื่อเหลือความปลอดภัยเวลาคำนวน ดังนั้นถ้าเราเอาข้อมูลเหล่านี้เข้าไปคิดคำนวนในโปรกแกรม EZ Financial Calculator เราจะได้ออกมาว่า
เราจะต้องผ่อนธนาคารเดือนละ 19,959 บาท/เดือน
ถ้าผ่อนครบ 30 ปี เราจะต้องจ่ายค่างวดทั้งหมด = 7,184,265 บาท
ทุกคนไม่ได้ฟังผิดไปหรอกนะครับ กู้มาสามล้าน จ่ายจริง 7 ล้าน
นั่นหมายความว่าดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญานี่คือ 4 ล้านกว่าบาทเลยครับ
ดอกเบี้ยบ้าน หนี้บ้าน คิดดอกเบี้ย กู้บ้าน

ดอกเบี้ยบ้านคิดยังไง รู้ไหม กู้บ้าน 3 ล้านต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารเท่าไร?

อัตราดอกเบี้ยบ้าน MRR MLR MOR คืออะไร เกี่ยวข้องยังไงกับคนที่จะกู้ซื้อบ้าน ? | Guru Living


MRR MLR MOR คืออะไร เกี่ยวข้องยังไงกับคนที่กู้ซื้อบ้าน
MRR MLR MOR คนที่กำลังวางแผนจะขอินเชื่อกับทางธนาคารคงเคยได้ยินตัวย่อพวกนี้กันมาแล้วใช่ไหมครับ เพราะปรกติเวลาเราไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อบ้านมา พนักงานเขาจะบอกเป็น MRR บ้างหละ MLR อะไรบ้างหละ วันนี้ผมจะมาอธิบายคำศัพย์เหล่านี้กันครับว่ามันเกี่ยวข้องยังไงกับคนที่กพลีงวางแผนจะกู้ซื้อบ้าน มาดูกันครับ

ก่อนอื่นขออธิบายโครงสร้างสินเชื่อที่อยู่อาศัยหรือโครงสร้างของหนี้บ้านเราก่อนนะครับว่า โดยปรกติแล้วหนี้ที่เราไปกู้ธนาคารมาเนี่ยเขามีลักษณะการคิดดอกเบี้ยอย่างไรบ้าง
โดยปรกติแล้วสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์แต่ละที่จะมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อนั้นๆเป็นสองลักษณะใหญ่ๆครับคือ
1.ดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ (Fixed Rate)
อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่หมายความว่าอัตราดอกเบี้ยจะคงที่ไว้ตามที่เราได้ตกลงกับธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อนั้นๆ เช่นถ้าเราตกลงว่าเราจะขอกู้ในอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5% ในช่วง 3 ปีแรกเราก็จะได้ดอกเบี้ยตามที่ตกลงไว้ครับ ทางธนาคารจะไม่สามารถเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่ตกลงกับเราไว้ได้
2 ดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว ( Floating Rate )
อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวหมายความว่า ดอกเบี้ยสินเชื่อของเราจะเปลี่ยนแปลงไปตามที่สถาบันการเงินกำหนดครับ โดยอัตราดอกเบี้ยในส่วนนี้สถาบันการเงินจะออกมากำหนดเป็นงวดๆแล้วแต่นโยบายในแต่ละช่วงครับ โดยจะอ้างอิงตามค่า MRR , MOR , MLR ในแต่ละช่วงเวลา

โดยปรกติการที่เราาไปกู้สินเชื่ที่อยู่อาศัย ทางธนาคารส่วนมากจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยในช่วง 1 3 ปีแรกเป็นแบบคงที่ Fixrate ครับและที่สำคัญเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างจะต่ำด้วยครับเช่น คิดคงที่ 3 ปีแรก 5 % และในปีที่ 3 เป็นต้นไปดอกเบี้ยสินเชื่อของเราก็จะปรับเป็นแบบลอยตัวตามค่า MRR , MLR และ MOR ตามที่ธนาคารกำหนดในช่วงนั้นๆครับ
ดังนั้นเห็นไหมครับว่า MRR MLR MOR เป็นตัวกำหนดอัตราดอกเบี้ยของเราเลยครับว่าเราจะต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงหรือถูก

MLR (Minimum Loan Rate)
หมายถึงอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี เช่น มีประวัติการเงินที่ดี มีหลักทรัพย์ค้ำประกันอย่างเพียงพอ โดยส่วนใหญ่ใช้กับเงินกู้ระยะยาวที่มีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน เช่น สินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจ
MOR (Minimum Overdraft Rate)
หมายถึงอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทวงเงินเบิกเกินบัญชี

MRR (Minimum Retail Rate)
หมายถึงอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อที่อยู่อาศัย

โดยทั่วไป อัตราดอกเบี้ย MRR จะสูงกว่า MOR และ อัตราดอกเบี้ย MOR จะสูงกว่า MLR ซึ่งส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ย MRR และ MLR เป็นตัวสะท้อนระดับความเสี่ยงที่ต่างกันระหว่างลูกค้ารายใหญ่และรายย่อย

ยกตัวอย่างเช่น ธนาคารกำหนดว่า อัตราดอกเบี้ยของเราจะคงที่ 4% ในช่วง 3 ปีแรก และในปีที่ 4 อัตราดอกเบี้ยจะเป็น MRR 2 หมายความว่าเราต้องไปดูว่าช่วงนั้น MRR ของธนาคารที่เราขอสินเชื่อเป็นเท่าไร (ถ้าเกิดว่าสมมุติ MRR = 7 ) หมายความว่าดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายในปีที่ 4 จะเป็น 7 2 = 5% ต่อปีครับ ซึ่งในแต่ละช่วง MRR จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆนะครับแล้วแต่นโยบายของธนาคาแห่งประเทศไทย
โดยอัตราของ MRR , MOR และ MLR จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดครับขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยครับ และที่สำคัญ MRR MOR และ MLR ของแต่ละธนาคารจะไม่เท่ากันนะครับ ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร เราในฐานะผู้บริโภคควรศึกษาข้อมูล และ รายละเอียดให้รอบคอบก่อนการขอสินเชื่อนะครับ
………………………………………………
ติดต่องาน
Mail: [email protected]
website: https://gurulivingth.com/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCSqymhgsUgVLaQNF6L5gg
Facebook: https://www.facebook.com/gurulivingth/
………………………………………………

mrr mlr ดอกเบี้ยบ้าน สินเชื่อที่อยู่อาศัย mrrคือ mlrคือ morคือ mrrแต่ละธนาคาร mrr2563 mrr2562 mlrแต่ละธนาคาร mlr2563 ดอกเบี้ยบ้าน2563 กู้ซื้อบ้าน

อัตราดอกเบี้ยบ้าน MRR MLR MOR คืออะไร เกี่ยวข้องยังไงกับคนที่จะกู้ซื้อบ้าน ? | Guru Living

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สินเชื่อบ้าน 2564 | กู้ซื้อบ้าน ธอส. ดอกเบี้ยต่ำ | สินเชื่อ ธอส มีอะไรบ้าง ?


ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สินเชื่อบ้าน 2564 | กู้ซื้อบ้าน ธอส. ดอกเบี้ยต่ำ | สินเชื่อ ธอส มีอะไรบ้าง ?
สินเชื่อส่วนบุคค Citi 💲💲 สมัครขอสินเชื่อ http://bit.ly/2vKZL5r
สินเชื่อรถยนต์ 💲💲 https://bit.ly/35bYBiO
สินเชื่อบ้าน 💲💲 http://bit.ly/31ncXJp
ขั้นตอนสมัครบัตรเครดิต citibank http://bit.ly/2YumhNL

ไม่พลาดความรู้ดีๆ จากช่อง Taokaemai
รับความรู้การทำธุรกิจ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ผ่าน Line กดติดตาม https://lin.ee/dZI0PPY
รับชมคลิปความรู้ ใหม่ เคล็ดลับสร้างอาชีพ แหล่งเงินทุนก่อนใคร กดติดตาม Youtube https://bit.ly/3mX5OcU
แลกเปลี่ยนพูดคุย ความรู้การทำธุรกิจ กดติดตาม Facebook : https://www.facebook.com/TaoKaeMaiCom
อ่านบทความการทำธุรกิจตั้งแต่มือใหม่ยันมืออาชีพ กดติดตาม website https://www.taokaemai.com
ธอสพักชำระหนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ลงทะเบียนพักชำระหนี้ธอส มาตรการพักชำระหนี้ธอส

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สินเชื่อบ้าน 2564 | กู้ซื้อบ้าน ธอส. ดอกเบี้ยต่ำ | สินเชื่อ ธอส มีอะไรบ้าง ?

ฎีกา Intrend ep.8 เจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยเกินอัตราเป็นโมฆะ


ฎีกา Intrend ep. 8 เจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยเกินอัตราเป็นโมฆะ
นายสรวิศ ลิมปรังษี
The Host : กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลยุติธรรม
Guest Host : สรวิศ ลิมปรังษี
ที่ปรึกษา : สรวิศ ลิมปรังษี, สุริยัณห์ หงษ์วิไล, จีรวรรณ เจริญยศ
Show Creator : นันทวัลย์ นุชนนทรี, ศณิฏา จารุภุมมิก
Episode Producer \u0026 Editor : ศณิฏา จารุภุมมิก, ปนัสยา ชื่นอุระ
Sound Designer \u0026 Engineer : กฤตภาส ทองแจ้ง, กิติชัย โล่สุวรรณ
Coordinator \u0026 Admin : สุภาวัชร์ ดลมินทร์, โสรัตน์ ไวศยดำรง
ดอกไม้อาจต้องใช้ปุ๋ยและรดน้ำพรวนดินจึงจะออกมาให้เห็น แต่เมื่อเป็น “ดอกเบี้ย” แล้วงอกงามผลิดอกออกผลได้ทุกฤดูกาล โดยไม่ต้องใส่ปุ๋ยหรือรดน้ำใด ๆ อีก แต่การคิดดอกเบี้ยก็คงต้องมีกรอบและขอบเขตด้วย หากคิดกันแบบมหาโหดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดแล้วย่อมจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้ว่าการตกลงกันแบบนั้นจะมีผลมากน้อยเพียงใด และปัญหาที่สำคัญที่เราจะมาคุยกันคือแล้วหากลูกหนี้เกิดชำระหนี้ไปตามยอดหรืออัตราดอกเบี้ยที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้แล้วจะมีผลอย่างไร ลูกหนี้จะเรียกเงินที่ชำระไปนั้นคืนได้หรือไม่ หรือเจ้าหนี้จะต้องทำอย่างไรกับเงินที่ลูกหนี้ชำระเป็นค่าดอกเบี้ยที่เกินอัตรามานั้น
ก่อนที่เราจะลงไปในรายละเอียด คงต้องทำความเข้าใจกันเบื้องต้นก่อนว่าที่บอกว่าคิดดอกเบี้ยเกินอัตรานั้นต้องดูเป็นรายกรณีไปด้วยว่าคนที่เขาให้กู้ยืมเงินมานั้นเป็นใคร เพราะอัตราดอกเบี้ยที่เจ้าหนี้จะคิดได้ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าหนี้นั้นเป็นเจ้าหนี้ประเภทใด เพราะหากเป็นกรณีของสถาบันการเงินแล้วจะมีกฎหมายกำหนดไว้โดยเฉพาะที่ทำให้คิดดอกเบี้ยได้มากกว่าคนธรรมดาให้กู้ และขึ้นอยู่กับประเภทของเงินกู้แต่ละชนิดด้วย แต่กรณีที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้เป็นเรื่องที่บุคคลธรรมดาให้กู้ยืมเงินกัน
เรื่องราวในตอนนี้สมมติอีกเช่นเคยว่านางยิ้มไปกู้ยืมเงินจากนายแย้มเป็นเงิน 200,000 บาท นายแย้มคิดดอกเบี้ยจากนางยิ้มในอัตราร้อยละ 10 ต่อเดือน ต่อมานางยิ้มไม่จ่ายเงินคืนให้นายแย้มตามที่ตกลงกัน นายแย้มจึงมาฟ้องเรียกร้องให้นางยิ้มชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยแก่ตน ก่อนหน้าที่นายแย้มจะมาฟ้องคดี นางยิ้มได้เคยชำระเงินคืนให้แก่นายแย้มไปบ้างแล้วแต่เนื่องจากดอกเบี้ยอัตราสูงมาก เงินที่นางยิ้มจ่ายไปร่วม 100,000 บาทจึงถูกนายแย้มนำไปหักชำระเป็นดอกเบี้ยเท่านั้น
กรณีที่บุคคลธรรมดาให้กู้ยืมเงินกันนี้ กฎหมายกำหนดให้คิดดอกเบี้ยได้ไม่เกินอัตราร้อยละ 15 ต่อปีเท่านั้น การคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดความจริงมีโทษทางอาญาอยู่ด้วย กฎหมายปัจจุบันคือ พรบ. ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 ซึ่งมีโทษจำคุกได้ถึง 2 ปี หรือปรับ 200,000 บาท แต่ผลของการที่กำหนดโทษทางอาญาไว้ดังกล่าว ทำให้ถือว่ากฎหมายที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้เป็นเรื่องสำคัญ การที่เจ้าหนี้ไปคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้จึงเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายในเรื่องที่สำคัญเช่นกัน ข้อตกลงที่ให้คิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กำหนดไว้จึงถือว่าเป็นข้อตกลงที่เป็น “โมฆะ” ซึ่งทำความเข้าใจได้ง่าย ๆ ว่าแม้จะตกลงกำหนดไว้ แต่ในทางกฎหมายแล้วถือเสมือนว่าข้อตกลงนั้นไม่เคยเกิดมีขึ้นมาเลย คือไม่มีผลบังคับทางกฎหมายใด ๆ นั่นเอง
ด้วยเหตุนี้ ข้อตกลงที่นายแย้มคิดดอกเบี้ยจากนางยิ้มในอัตราร้อยละ 10 ต่อเดือนจึงเห็นได้ชัดว่าเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้แน่ ๆ ผลคือข้อตกลงนี้ย่อมเป็น “โมฆะ” ไปดังที่กล่าวถึง ทำให้นายแย้มไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยเงินกู้จากนางยิ้มได้ยกเว้นแต่เป็นดอกเบี้ยผิดนัดที่เป็นอีกกรณีหนึ่ง หากนายแย้มมาฟ้องเรียกร้องให้ชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 10 ต่อเดือนก็ย่อมไม่สามารถทำได้ แต่ปัญหาสำคัญของเรื่องนี้คือแล้วเงินที่นางยิ้มชำระไปแล้ว 100,000 บาท ซึ่งนายแย้มเอาไปหักดอกเบี้ยจะทำอย่างไร การชำระดังกล่าวจะมีผลเพียงใด
สำหรับเงินจำนวนนี้ นางยิ้มอาจจะไม่สามารถเรียกร้องคืนเอาจากนายแย้มได้ เพราะตามปกติของการชำระเงินให้ใครไปโดยที่เป็นหนี้ที่ฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายก็จะไม่สามารถเรียกร้องคืนมาได้ แต่เมื่อได้กล่าวไปแล้วว่านายแย้มเองก็ไม่มีสิทธิได้รับชำระดอกเบี้ยที่ตนเองคิดเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไปด้วย แต่ที่ผ่านมานายแย้มรับชำระเงินจากนางยิ้มแล้วเอาไปหักชำระดอกเบี้ยที่ฝ่าฝืนกฎหมายนั้นมาโดยตลอด ที่ควรจะเป็นคือนายแย้มต้องเอาเงิน 100,000 บาท ที่นางยิ้มชำระมาไปหักชำระต้นเงินกู้ที่ค้างอยู่แทน เหลือยอดต้นเงินกู้เท่าใดจึงจะเป็นยอดที่นายแย้มมีสิทธิฟ้องเรียกคืนจากนางยิ้มได้
แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่านางยิ้มเองจะหลุดพ้นไม่ต้องชำระดอกเบี้ยใด ๆ ให้แก่นายแย้ม เพราะหากสมมติว่าสัญญากู้ดังกล่าวกำหนดให้นางยิ้มต้องคืนเงินทั้งหมดภายในวันที่ 31 ธันวาคม ของปีที่ผ่านมา เมื่อครบกำหนดแล้วไม่ชำระ นางยิ้มจะกลายเป็นลูกหนี้ที่ “ผิดนัด” ชำระหนี้ นายแย้มในฐานะเจ้าหนี้จึงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยผิดนัดได้ แต่จะเป็นอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี และไม่ได้คิดตั้งแต่วันที่ให้กู้ยืมไปเหมือนดอกเบี้ยเงินกู้ปกติ แต่ต้องคิดตั้งแต่วันที่พ้นกำหนดชำระหนี้ตามสัญญาซึ่งก็คือวันที่ 31 ธันวาคม เป็นต้นไป
การคิดดอกเบี้ยเป็นเรื่องปกติของการกู้หนี้ยืมสินเพราะเงินย่อมมีค่าหากไม่ให้กู้ยืมไปเจ้าหนี้อาจไปหาผลประโยชน์ทางอื่นให้งอกงามได้เช่นกัน เมื่อลูกหนี้ต้องการกู้ยืมจึงจำเป็นต้องให้ผลประโยชน์ตอบแทนแก่เจ้าหนี้ด้วยเช่นกัน แต่ผลประโยชน์ที่เจ้าหนี้จะเรียกก็ต้องพอเหมาะพอสมด้วย ไม่ใช่เห็นคนเดือดร้อนต้องการใช้เงินมาก็ถือโอกาสขูดรีดเอาจากความเดือดร้อนของคนที่เป็นลูกหนี้จนไม่ต้องโงหัวกันหากต้องใช้ดอกเบี้ยในอัตราที่สูงลิบลิ่ว หากมีการคิดดอกเบี้ยกันแบบนั้น ข้อตกลงที่คิดดอกเบี้นเกินที่กฎหมายกำหนดจะตกเป็นโมฆะไป หากลูกหนี้ชำระดอกเบี้ยอัตราที่ฝ่าฝืนกฎหมายไปเท่าใด แม้ลูกหนี้จะเรียกเงินนั้นคืนไม่ได้ แต่เจ้าหนี้ก็ต้องเอาไปหักชำระเงินต้นให้แก่ลูกหนี้ด้วยจึงจะเป็นธรรม (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5056/2562)

ฎีกา  Intrend ep.8 เจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยเกินอัตราเป็นโมฆะ

ปี 2564 ธนาคารไหนดอกเบี้ยบ้านต่ำที่สุด จะซื้อบ้านต้องดู!! อัพเดทดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน 7 ธนาคาร


ปี 2564 ธนาคารไหนดอกเบี้ยบ้านต่ำที่สุด จะซื้อบ้านต้องดู!! อัพเดทดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน 7 ธนาคาร
จนมาถึงต้นปี 2564 นี้ครับอัตราดอกเบี้ยบ้านโดยเฉลี่ยของทั้งตลาดก็ยังคงอยู่ในอัตราที่ไม่สูงมากครับ ดังนั้นครับในช่วงต้นปีนี้ (ก่อนที่ดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นนะครับ) สำหรับคนที่วางแผน มีการเตรียมพร้อมสำหรับการซื้อบ้านอยู่แล้วผมเชื่อว่าต้นปีนี้เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ดีมากๆที่เราจะซื้อบ้านเลยครับ

และผมเสริมให้อีกนิดนึงนะครับปี 2564 นี้รัฐบาลได้มีประกาศลดค่าโอนค่าจดจำนองจองต่อีกในปี 2564 นี้ครับ
https://youtu.be/JarWd5G08NQ

สินเชื่อบ้านธนาคารออมสิน
ระยะเวลาขอ 30/04/2564
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 2.68%
MRR = 6.245%
ระยะเวลากู้ 40 ปี
วงเงินกู้สูงสุด 100%
กรณีซื้อบ้านใหม่ / ปลูกสร้าง

ธนาคารธอส
โครงการสินเชื่อบ้านคนละหลัง
ระยะเวลาขอ 30/06/2564
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 2.75%
MRR = 6.15%
ระยะเวลากู้ 40 ปี
วงเงินกู้สูงสุด 100% (ไม่เกิน สองล้าน)

ธนาคารกรุงไทย
สินเชื่อบ้านธนาคารกรุงไทย
ระยะเวลาขอ 31/03/2564
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 2.73%
MRR = 6.22%
ระยะเวลากู้ 30 ปี
วงเงินกู้สูงสุด 100%
ดอกเบี้ยปีแรกเริ่มต้น 0.64% ต่อปี

ธนาคารกรุงศรี
สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย
ระยะเวลาขอ 31/03/2564
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 3.52%
MRR = 6.05%
ระยะเวลากู้ 30 ปี
วงเงินกู้สูงสุด 90%
สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ราคามากกว่า 5 ล้าน

ธนาคารกสิกร
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 5.2%
MRR = 5.97
ระยะเวลากู้ 30. ปี
วงเงินกู้สูงสุด 90%
กรณีกู้ซื้อบ้านใหม่หรือบ้านมือสอง หรือ ปลูกสร้างบ้านเ

ธนาคารกรุงเทพ
สินเชื่อบ้านบัวหลวง
ระยะเวลาขอ 31/03/2564
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 3.83%
MRR = 5.75%
ระยะเวลากู้ 35 ปี
วงเงินกู้สูงสุด 95%
วงเงินตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท

สินเชื่อบ้านธนาคารไทยพาณิชย์
ระยะเวลาขอ 31/03/2564
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี =5.995%
MRR = 5.995%
ระยะเวลากู้ 30 ปี
วงเงินกู้สูงสุด 100%

และสำหรับคนที่กำลังวางแผนจะซื้อบ้านนะครับผมได้ทำคลิปเกี่ยวกับการวางแผนสำหรับคนที่กำลังจะกู้ซื้อบ้านว่า เราควรจะต้องวางแผนยังไง เตรียมความพร้อมยังไง จัดสรรเรื่องการเงินยังไง ให้ยื่นกู้แล้วผ่านชัวๆ ผมได้ทำสรุปไว้ในคลิป vdo แล้วนะครับ
กู้บ้าน ยังไงให้ผ่านผ่าน 100% เคล็ดลับการขอสินเชื่อบ้านกับธนาคารที่ควรต้องรู้ !
https://youtu.be/vWHsv3dwfQ

เพิ่มเติมนิดนึงสำหรับคนที่เพิ่งเข้ามาดูและยังไม่ทราบว่า รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร ทำไมพอผ่อนบ้านไปครบ 3 ปี ถึงต้องรีไฟแนนซ์ผมทำคลิปอธิบายไว้อย่างละเอียดเลยนะครับสามารถเข้าไปดูได้ที่

รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร ทำไมผ่อนบ้านครบ 3 ปีต้อง Refinance
https://youtu.be/NsI2IwVv8g0

น่าจะเป็นประมานนี้นะครับสำหรับคนที่กำลังมองหาธนาคารเพื่อที่จะไปกู้ซื้อบ้าน แต่เลือกไม่ถูกว่าจะกู้ธนาคารไหนดีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคลิปนี้จะช่วยเป็นตัวเลือกให้ทุกๆคนตัดสินใจได้ดีขึ้นนะครับ
แต่สุดท้ายที่เราจะจากกันไปผมอยากจะฝากทุกๆคนไว้นิดนึงนะครับว่า ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงต้นปี 2564 ยังคงเป็น Golden Peroid ที่ทุกอย่างมันดูเหมือนจะน่าซื้อ น่าลงทุนไปหมด แต่สิ่งหนึ่งที่ผมย้ำเสมอและผมเชื่อว่ามันสำคัญมากๆคือ
“เราต้องประเมินความเสี่ยง” ที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิตเราไว้ด้วยนะครับ แน่นอนว่าวันนี้บ้าน คอนโดเขาลดราคา วันนี้อัตราดอกเบี้ยมันถูก แต่ถ้าสถานะทางการเงินเรายังไม่พร้อม หรือ เรายังไม่จำเป็นที่ต้องซื้อ ผมก็คิดว่าเราไม่ควรห่วงเรื่องส่วนลด เรื่องโปรโมชั่น จนลืมตรวจสอบความจำเป็นและความพร้อมของตัวเรานะครับ เพราะสุดท้ายแล้วถ้าเราตัดสินใจโดยขาดการไตร่ตรอง และ วางแผน การซื้อบ้านของเรามันจะกลับมาสร้างเป็นปัฐหาที่ใหญ่และปวดหัวให้เรามากๆเลยครับ

สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบ้าน2564 ดอกเบี้ยบ้าน2564 ซื้อบ้าน2564 สินเชื่อบ้านธนาคารออมสิน สินเชื่อบ้านธอส สินเชื่อบ้านกสิกร สินเชื่อบ้านกรุงไทย สินเชื่อบ้านกรุงศรี สินเชื่อบ้านไทยพาณิชย์ สินเชื่อบ้านบัวหลวง

ปี 2564 ธนาคารไหนดอกเบี้ยบ้านต่ำที่สุด จะซื้อบ้านต้องดู!! อัพเดทดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน 7 ธนาคาร

นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆWiki

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *