Home » บ้านผ่อนเดือนล่ะ3,500- 4,000 | ผ่อนบ้านราคาถูก

บ้านผ่อนเดือนล่ะ3,500- 4,000 | ผ่อนบ้านราคาถูก

บ้านผ่อนเดือนล่ะ3,500- 4,000


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

อุ้ย อุ้ย อ้าย อ้าย 🤣🤣🤣
ถึงกับครางครับเจอบ้านหลังนี้
บ้านผ่อนเดือนล่ะ3,500 4,000
หมู่บ้าน บ้านฉัน จากแยกตะพง ประมาณ 1 กม
(ถ้าไปจากระยอง หมู่บ้านติดถนนหลักเลย)
ซอย 7 บ้านเลขที่ 232/15
20ตรว 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ครัว 1 ที่จอดรถ
พิกัดบ้าน คลิกที่ลิ้งเลย 👇🏻👇🏻👇🏻
https://goo.gl/maps/v8LoaFQEPuQ2
ติดต่อ สอบถามได้ 24 ชม 🤗🤗🤗
ช่องทางการติดต่อ 👨🏻‍💻👨🏻‍💻👨🏻‍💻
Line ID : @proball (อย่าลืมพิม@นะครับ)
เบอร์โทร : 0634425461 บอล

บ้านผ่อนเดือนล่ะ3,500- 4,000

เทคนิคผ่อนบ้าน ให้หนี้หมดเร็วขึ้น 10 ปี ประหยัดดอกเบี้ยเป็นล้าน!!


เทคนิคผ่อนบ้าน ให้หนี้หมดเร็วขึ้น 10 ปี ประหยัดดอกเบี้ยเป็นล้าน!!
หนี้บ้านสำหรับหลายๆคนแล้วถือว่าเป็นหนี้ก้อนที่ใหญ่ที่สุดและระยะเวลาการผ่อนชำระยาวนานที่สุดเลยก็ว่าได้นะครับ เพราะระยะเวลาที่ธนาคารเขาให้เราผ่อนบ้านเนี่ยเริ่มตั้งแต่ 20 ไปจนถึง 40 ปีเลยก็มีครับ ซึ่งเอาเข้าจิงๆถ้าเราผ่อนไปเรื่อยๆตามที่ธนาคารเขาบอกนี่คือทำงานจนเกษียนเลยนะครับกว่าหนี้ของเราจะหมด
แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือไม่ใช่แค่เรื่องระยะที่นานหรอกนะครับ การผ่อนบ้านให้จำไว้เลยนะครับว่ายิ่งเราผ่อนนานเท่าไร เรายิ่งเสียดอกเบี้ยมากขึ้นเท่านั้น เพราะอะไรหรอครับเพราะว่าการคิดดอกเบี้ยบ้านเนี่ยเขาจะคิดแบบ ลดต้นลดดอกครับ อธิบายง่ายๆว่าดอกเบี้ยจะคิดตามเงินต้นครับ ผมได้ทำคลิปอธิบายเรื่องนี้ไว้อย่างระเอียดแล้วลองเข้าไปดูคลิปในช่องได้นะครับ

ดังนั้นไอการที่เราผ่อนบ้านเป็นเวลา 30 40 ปีเนี่ยนอกจากมันจะเป็นภาระระยะยาวมากๆแล้วเรายังต้องจ่ายดอกเบี้ยอีกเยอะมากๆด้วยครับเดี๋ยวจะหาว่าผมเว่อร์จนเกินไป ผมจะคำนวนออกมาให้ดูกันเลยดีกว่าครับ
สมมุติว่าผมซื้อคอนโดราคา 3 ล้านบาท ผมผ่อน 30 ปี โดยผมกำหนดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยทั้งสัญญาอยู่ที่ 7% เหมือนที่ผมบอกทุกครั้งนะครับว่าที่ผมใช้ 7% เพราะเอาเอาเฉลี่ยทั้งสัญญาและปัดขึ้นนิดนึงเป็นค่าเผื่อเหลือความปลอดภัยเวลาคำนวน ดังนั้นถ้าเราเอาข้อมูลเหล่านี้เข้าไปคิดคำนวนในโปรกแกรม EZ Financial Calculator เราจะได้ออกมาว่า
เราจะต้องผ่อนธนาคารเดือนละ 19,959 บาท/เดือน
ถ้าผ่อนครบ 30 ปี เราจะต้องจ่ายค่างวดทั้งหมด = 7,184,265 บาท
ทุกคนไม่ได้ฟังผิดไปหรอกนะครับ กู้มาสามล้าน จ่ายจริง 7 ล้าน
นั่นหมายความว่าดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญานี่คือ 4 ล้านกว่าบาทเลยครับ
วิธีแรกครับคือการโปะหรือการผ่อนชำระเพิ่มจากที่ผ่อนอยู่
จริงๆวิธีนี้มีหลายท่านทำกันแล้วแต่ยังมีอีกหลายๆคนที่ยังไม่รู้นะครับว่าสามารถโปะเพิ่มได้ ฉันอยากให้ทำความเข้าใจกันก่อนครับว่าเงินที่เราผ่อนเพิ่มเข้าไปเนี่ยมันจะไปตัดแต่ในส่วนเงินต้นทั้งนั้นเลยครับยกตัวอย่าง
เช่นปกติแล้วผ่อนชำระค่าบ้านอยู่เดือนละ 10,000 บาทถ้าเราผ่อนเพิ่มเข้าไปอีกสักเดือนละ 1,000 บาท 1000 ที่เราใส่เพิ่มเข้าไปนี่แหละครับมันจะไปตัดเป็นส่วนของเงินต้นทั้งนั้นเลยดังนั้นการผ่อนเพิ่มต่อเดือนจึงช่วยให้นี่เราหมดเร็วขึ้นอย่างมากนะครับที่สำคัญจะช่วยประหยัดดอกเบี้ยด้วยเพราะเมื่อเงินต้นโดนตัดออกดอกเบี้ยที่เราจะต้องจ่ายก็ลดเป็นสัดส่วนตามไปด้วยครับ

วิธีแรกเห็นว่าหมดเร็วแล้วใช่ไหมครับมาแต่มันยังมีอีกวิธีที่ควรทำร่วมกัด้วยระหว่างที่เราโปะครับนั่นคือการรีไฟแนนซ์ทุกๆ 3 ปีครับ
รีไฟแนนซ์คือการขอสินเชื่อก้อนใหม่จากธนาคารครับ อาจจะเป็นธนาคารเดิมที่เรากู้อยู่หรือไปยื่นขอธนาคารใหม่ก็ได้ครับ นั่นหมายความว่าเราจะเปลี่ยนหนี้เดิมทั้งก้อน กลายมาเป็นหนี้ก้อนใหม่เลยครับ พูดง่ายๆว่าขอกู้ใหม่อีกรอบ แต่ที่พิเศษกว่านั้นก็คือ การรีไฟแนนซ์เราสามารถกำหนดแผนการในการผ่อนชำระได้หลากหลายมากขึ้นด้วยครับยกตัวอย่างเช่น

กรณีที่1 เราอยากผ่อนบ้านให้หมดเร็วขึ้น
เราอาจเลือกระยะเวลาผ่อนชำระให้สั้นลง ส่งเงินต่องวดให้มากขึ้น
จากของเดิมเราผ่อน ยอดสินเชื่อคงเหลือ 3,000,000 บาท ระยะเวลา 30 ปี ผ่อนต่อเดือน 19,000 ถ้าเราอยากผ่อนให้หมดเร็วขึ้นเราอาจเลือกการ Refinace เป็น
ยอดสินเชื่อ 3,000,000 บาท ระยะเวลา 20 ปี ผ่อนต่อเดือน 15,000 บาทต่อเดือน

กรณีที่ 2 เราอยากให้ยอดผ่อนชำระต่อเดือนลดลง
จากยอดหนี้เดิมที่เราผ่อนธนาคารมาแล้ว 3 ปี ผมสมมุติว่า ถ้ายอดสินเชื่อเดิมเราคือ 3 ล้าน เราผ่อนมา 3 ปี เงินต้นอาจจะคงเหลือประมาณ 2.8 ล้านบาท และยอดเดิมเราผ่อนธนาคารอยู่ที่เดือนละ 19,000 บาท

ดังนั้นถ้าสรุปคร่าวๆจากทั้ง 2 วิธีที่ผมได้ยกมาให้ดูดีนะครับว่าในแต่ละเดือนที่เราผ่อนธนาคารเราควรจะผ่อนเพิ่มจากที่เราผ่อนอยู่ทุกเดือนครับเพราะมันจะช่วยตัดเงินต้นไปได้เยอะเมื่อเทียบกับเงินต้นไปได้เยอะนี่ก็จะหมดเร็วขึ้นดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายมันก็ลดลงด้วยเพราะเราผ่อนชำระครบ 3 ปีเราก็วางแผนที่จะ รีไฟแนนซ์ เพื่อปรับโครงสร้างหนี้เหลือลดอัตราดอกเบี้ยอะไรก็ว่ากันไปนะครับซึ่งผมเชื่อว่าการทำแบบนี้จะช่วยประหยัดดอกเบี้ยให้เราได้เป็นเงินมหาศาลนะครับและทำให้นี่ของเราหมดเร็วขึ้นด้วยนะครับ

ดังนั้นสรถุปกันอีกทีนะครับ ถ้าเพื่อนๆฟังมาถึงตรงจุดนี้และกำลังผ่อนบ้านกันอยู่หรือกำลังวางแผนจะซื้อบ้าน สิ่งที่ผมอยากให้ทุกๆคนทำคือ วางแผนโปะเพิ่มต่อเดือนครับ จะมากจะน้อยไม่ว่ากันแต่อยากให้โปะนะครับ และช่วงไหนมีเงินพิเศษมีโบนัสอะไรก็แบ่งบางส่วนมาโปะได้ยิ่งดีครับ และเมื่อครบสามปีทุกๆสามปีก็ให้วางแผนที่จะรีไฟแนนซ์หรือรีเทนชั่นเพื่อปรับอัตราดอกเบี้ยลงมาให้มันถูกลงอีกนะครับ หมั่นทำแบบนี้ผมรับประกันเลยนะครับเผลอบางคนถ้าวินัยดีๆ สามารถโปะได้เยอะๆเนี่ย 10 ปีหนี้บ้านหมดก็มีเยอะแยะไปครับ เราจะได้เก็บเงินไว้สำหรับต่อยอดอนาคตหรือไว้ซื้อความสุขอะไรก็ว่ากันไปนะครับ

ผ่อนบ้าน เทคนิคผ่อนบ้าน ซื้อบ้าน ดอกเบี้ยบ้าน

เทคนิคผ่อนบ้าน ให้หนี้หมดเร็วขึ้น 10 ปี ประหยัดดอกเบี้ยเป็นล้าน!!

เงินเดือนเท่านี้ กู้ซื้อบ้านได้กี่ล้านบาท ? | ธนาคารเขาคิดยังไง | ค่า DSR คืออะไร ?


เงินเดือนเท่านี้ กู้ซื้อบ้านได้กี่ล้านบาท ? | ธนาคารเขาคิดยังไง | ค่า DSR คืออะไร ?

ก่อนอื่นเลยการที่เราจะไปขอสินเชื่อแบงค์ รู้ไหมครับว่าธนาคารเขากลัวอะไรที่สุด สิ่งที่ธนาคารเขากังวลมากที่สุดคือ เราจะไม่คืนเงินเขา หรือ เราจะผ่อนหนี้ของเขาไม่ไหวครับ เพราะจริงๆแล้วถ้าเราผ่อนไม่ไหวสิ่งที่ธนาคารเขาต้องการจากเราจริงๆไม่ใช่ตัวบ้านนะครับ เขาต้องการเงินของเขาคืนครับ
เพราะฉะนั้น ธ จึงจำเป็นจะต้องกำหนดกฎเกณเบื้องต้น สำหรับเพื่อที่จะคัดกรองลูกค้าของเขาว่า ลูกค้าของเขามีความสามารถในการผ่อนไหม ลูกค้าของเขาจะคืนเงินเขาครบไหม ดังนั้นเกณแรกที่ ธ เขาจะดูนั่นก็คือเรามีภาระหนี้อยู่เท่าไร ?
คำว่ามีภาระหนี้อยู่เท่าไร ก็หมายความว่าสมมุติแต่ละเดือนเรามีรายได้เข้ามาเป็นเงินเดือนสักก้อนหนึ่ง ธ เขาก็จะดูว่าเรามีหนี้ตัวอื่นๆที่ต้องผ่อนอยู่ไหม ยกตัวอย่างเช่น หนี้รถยนต์ หนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล ถ้ามีเขาก็จะเอาพวกรายจ่ายพวกนี้มาหักกับรายรับก่อน เหลือเท่าไรเขาถึงจะมาดูครับว่าเราจะสามารถผ่อนบ้านไหวในราคาเท่านี้บาท

แต่ก่อนหน้านั้นอยากให้ทุกคนรู้จักคำๆนึงที่ธนาคารเขาจะเอาไว้ใช้เป็นเกณนะครับ ธนาคารเขาจะใช้ค่า Debt Service Ratio(DSR) ค่านี้คือ สัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ครับ DSR จะสามารถบอกถึงความสามารถของคุณในการชำระหนี้สินที่กู้ยืมมาว่าเรามีความสามารถในการผ่อนคืนธนาคารมากน้อยแค่ไหน โดย DSR เป็นตัวเลขทางการเงินที่สำคัญที่หลายประเทศในเอเชีย เช่น มาเลเซีย และสิงคโปร์ ได้นำมาใช้ประกอบการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ไม่ให้สร้างภาระหนี้เกินความสามารถครับ
โดยจะมีสูตรคำนวนตามนี้ครับ

DSR = หนี้ปัจจุบันต่อเดือน / รายได้ทั้งหมดต่อเดือน X 100
ซึ่งถ้าตัวเลข DSR ของคุณสูงนั่นหมายความว่าคุณมีภาระต่อรายได้มากเกินไป ความสามารถในการกู้บ้านของคุณก็จะน้อยลงตามไปด้วยครับ

ธนาคารแห่งประเทศไทยเขาจึงกำหนดค่า DSR อยู่ที่ 40% ขึ้นมาเป็นค่ามาตราฐานครับ นั่นหมายความว่าถ้า กู้บ้านแล้วผ่อนธนาคารพอเอาเงินผ่อนมาใส่ในสูตร DSR ของเราจะต้องไม่เกิน 40% ครับ หรือ ถ้าพูดเป็นภาษาบ้านๆแบบให้เข้าใจง่ายๆคือ ถ้าเงินเดือน 100 บาท เราจะผ่อนบ้านได้ไม่เกิน 40 บาทครับ

ง่ายๆแค่นี้ดังผมจะคิดออกมาให้ดูคล่าวๆนะครับว่าเงินเดือนสักเท่านี้กู้บ้านได้กี่บาทถ้าเรายึดค่า DSR = 40% เราจะกู้บ้านได้ประมาณเท่าไร

วิธีคำนวนคือเราสามารถหาจำนวนเงินที่เราจะกู้ได้คล่าวโดยใช้สูตร

เงินที่เราสามารถกู้ได้ = (DSRxเงินเดือน) ภาระหนี้อื่นๆ x 150
ผมกำหนดให้อัตรดอกเบี้ยเฉลี่ยตลอดอายุสัญญาอยู่ที่ 6.5% และ DSR ที่เป็นค่ามาตราฐานของธนาคารเป็น 40% นะคับ

………………………………………………
ติดต่องาน
Mail: [email protected]
website: https://gurulivingth.com/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCSqymhgsUgVLaQNF6L5gg
TikTok: https://vt.tiktok.com/ZSyvX4As/
Facebook: https://www.facebook.com/gurulivingth/
………………………………………………

ซื้อบ้าน กู้ซื้อบ้าน ผ่อนบ้าน guruliving

เงินเดือนเท่านี้ กู้ซื้อบ้านได้กี่ล้านบาท ? | ธนาคารเขาคิดยังไง | ค่า DSR คืออะไร ?

ปี 2564 ธนาคารไหนดอกเบี้ยบ้านต่ำที่สุด จะซื้อบ้านต้องดู!! อัพเดทดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน 7 ธนาคาร


ปี 2564 ธนาคารไหนดอกเบี้ยบ้านต่ำที่สุด จะซื้อบ้านต้องดู!! อัพเดทดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน 7 ธนาคาร
จนมาถึงต้นปี 2564 นี้ครับอัตราดอกเบี้ยบ้านโดยเฉลี่ยของทั้งตลาดก็ยังคงอยู่ในอัตราที่ไม่สูงมากครับ ดังนั้นครับในช่วงต้นปีนี้ (ก่อนที่ดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นนะครับ) สำหรับคนที่วางแผน มีการเตรียมพร้อมสำหรับการซื้อบ้านอยู่แล้วผมเชื่อว่าต้นปีนี้เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ดีมากๆที่เราจะซื้อบ้านเลยครับ

และผมเสริมให้อีกนิดนึงนะครับปี 2564 นี้รัฐบาลได้มีประกาศลดค่าโอนค่าจดจำนองจองต่อีกในปี 2564 นี้ครับ
https://youtu.be/JarWd5G08NQ

สินเชื่อบ้านธนาคารออมสิน
ระยะเวลาขอ 30/04/2564
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 2.68%
MRR = 6.245%
ระยะเวลากู้ 40 ปี
วงเงินกู้สูงสุด 100%
กรณีซื้อบ้านใหม่ / ปลูกสร้าง

ธนาคารธอส
โครงการสินเชื่อบ้านคนละหลัง
ระยะเวลาขอ 30/06/2564
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 2.75%
MRR = 6.15%
ระยะเวลากู้ 40 ปี
วงเงินกู้สูงสุด 100% (ไม่เกิน สองล้าน)

ธนาคารกรุงไทย
สินเชื่อบ้านธนาคารกรุงไทย
ระยะเวลาขอ 31/03/2564
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 2.73%
MRR = 6.22%
ระยะเวลากู้ 30 ปี
วงเงินกู้สูงสุด 100%
ดอกเบี้ยปีแรกเริ่มต้น 0.64% ต่อปี

ธนาคารกรุงศรี
สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย
ระยะเวลาขอ 31/03/2564
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 3.52%
MRR = 6.05%
ระยะเวลากู้ 30 ปี
วงเงินกู้สูงสุด 90%
สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ราคามากกว่า 5 ล้าน

ธนาคารกสิกร
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 5.2%
MRR = 5.97
ระยะเวลากู้ 30. ปี
วงเงินกู้สูงสุด 90%
กรณีกู้ซื้อบ้านใหม่หรือบ้านมือสอง หรือ ปลูกสร้างบ้านเ

ธนาคารกรุงเทพ
สินเชื่อบ้านบัวหลวง
ระยะเวลาขอ 31/03/2564
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 3.83%
MRR = 5.75%
ระยะเวลากู้ 35 ปี
วงเงินกู้สูงสุด 95%
วงเงินตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท

สินเชื่อบ้านธนาคารไทยพาณิชย์
ระยะเวลาขอ 31/03/2564
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี =5.995%
MRR = 5.995%
ระยะเวลากู้ 30 ปี
วงเงินกู้สูงสุด 100%

และสำหรับคนที่กำลังวางแผนจะซื้อบ้านนะครับผมได้ทำคลิปเกี่ยวกับการวางแผนสำหรับคนที่กำลังจะกู้ซื้อบ้านว่า เราควรจะต้องวางแผนยังไง เตรียมความพร้อมยังไง จัดสรรเรื่องการเงินยังไง ให้ยื่นกู้แล้วผ่านชัวๆ ผมได้ทำสรุปไว้ในคลิป vdo แล้วนะครับ
กู้บ้าน ยังไงให้ผ่านผ่าน 100% เคล็ดลับการขอสินเชื่อบ้านกับธนาคารที่ควรต้องรู้ !
https://youtu.be/vWHsv3dwfQ

เพิ่มเติมนิดนึงสำหรับคนที่เพิ่งเข้ามาดูและยังไม่ทราบว่า รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร ทำไมพอผ่อนบ้านไปครบ 3 ปี ถึงต้องรีไฟแนนซ์ผมทำคลิปอธิบายไว้อย่างละเอียดเลยนะครับสามารถเข้าไปดูได้ที่

รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร ทำไมผ่อนบ้านครบ 3 ปีต้อง Refinance
https://youtu.be/NsI2IwVv8g0

น่าจะเป็นประมานนี้นะครับสำหรับคนที่กำลังมองหาธนาคารเพื่อที่จะไปกู้ซื้อบ้าน แต่เลือกไม่ถูกว่าจะกู้ธนาคารไหนดีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคลิปนี้จะช่วยเป็นตัวเลือกให้ทุกๆคนตัดสินใจได้ดีขึ้นนะครับ
แต่สุดท้ายที่เราจะจากกันไปผมอยากจะฝากทุกๆคนไว้นิดนึงนะครับว่า ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงต้นปี 2564 ยังคงเป็น Golden Peroid ที่ทุกอย่างมันดูเหมือนจะน่าซื้อ น่าลงทุนไปหมด แต่สิ่งหนึ่งที่ผมย้ำเสมอและผมเชื่อว่ามันสำคัญมากๆคือ
“เราต้องประเมินความเสี่ยง” ที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิตเราไว้ด้วยนะครับ แน่นอนว่าวันนี้บ้าน คอนโดเขาลดราคา วันนี้อัตราดอกเบี้ยมันถูก แต่ถ้าสถานะทางการเงินเรายังไม่พร้อม หรือ เรายังไม่จำเป็นที่ต้องซื้อ ผมก็คิดว่าเราไม่ควรห่วงเรื่องส่วนลด เรื่องโปรโมชั่น จนลืมตรวจสอบความจำเป็นและความพร้อมของตัวเรานะครับ เพราะสุดท้ายแล้วถ้าเราตัดสินใจโดยขาดการไตร่ตรอง และ วางแผน การซื้อบ้านของเรามันจะกลับมาสร้างเป็นปัฐหาที่ใหญ่และปวดหัวให้เรามากๆเลยครับ

สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบ้าน2564 ดอกเบี้ยบ้าน2564 ซื้อบ้าน2564 สินเชื่อบ้านธนาคารออมสิน สินเชื่อบ้านธอส สินเชื่อบ้านกสิกร สินเชื่อบ้านกรุงไทย สินเชื่อบ้านกรุงศรี สินเชื่อบ้านไทยพาณิชย์ สินเชื่อบ้านบัวหลวง

ปี 2564 ธนาคารไหนดอกเบี้ยบ้านต่ำที่สุด จะซื้อบ้านต้องดู!! อัพเดทดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน 7 ธนาคาร

รายได้น้อย อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ต้องฟัง! สินเชื่อบ้าน ธอส.ผ่อน 70 ปี กู้ 1.5-1.8 ล้าน ส่ง 2,000 บ


รายได้น้อย อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ต้องฟัง! สินเชื่อบ้าน ธอส.ผ่อน 70 ปี กู้ 1.5-1.8 ล้าน ส่ง 2,000 บ

นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆWiki

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *